รายละเอียดทัวร์

www.TripleEnjoy.com
by Double Enjoy Travel Co., Ltd.

300/50 Nawamin Road, Nawamin, Buengkum, BKK 10240
Tel: 02-379-2955  Hotline: 099-130-6886  Fax: 02-379-1163 (Auto)

 Website: www.tripleenjoy.com   E-mail: [email protected]


 

Juristic Identification No. 0125554005216                                                               TAT License No. 11/05307


ทัวร์เนเธอร์แลนด์

TE319 : โปรแกรมทัวร์ล่องเรือสำราญแม่น้ำไรน์ตอนบน (Upper Rhine) [ฉลองเทศกาลปีใหม่] 10 วัน 7 คืน (OS)


Austrian Airlines (OS)
พิมพ์ พิมพ์ คัดลอก URL คัดลอก URL
TE319 : โปรแกรมทัวร์ล่องเรือสำราญแม่น้ำไรน์ตอนบน (Upper Rhine) [ฉลองเทศกาลปีใหม่] 10 วัน 7 คืน (OS)

โปรแกรมทัวร์ล่องเรือสำราญแม่น้ำไรน์ตอนบน (Upper Rhine)

มหาวิหารโคโลญจน์ | ล่องเรือแม่น้ำไรน์ | เมืองไลเดิน | เมืองเดลฟท์ | เมืองรอตเทอร์ดาม | บ้านลูกเต๋าไคก์คูมูส | เมืองมิดเดิลบีร์ค | เบอร์เก้น ออฟ ซูม | เมืองแอนเวิร์ป | เมืองซานส์คันส์ | ล่องเรือกระจก | กรุงอัมสเตอร์ดัม | เมืองยูเทรกต์ | เมืองไนเมเคิน | มหาวิหารอาเคิน


 
รายละเอียดการเดินทาง

26 ธ.ค. 2561กรุงเทพ
21.00 น.  พบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ ได้ที่เคาน์เตอร์เชคอินสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ส แถว G (Row G) ประตูทางเข้าที่ 4  อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4  สนามบินสุวรรณภูมิ 
23.55 น.ออกเดินทางสู่ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ส โดยเที่ยวบิน OS 26 (ใช้เวลาบินประมาณ 11.30 ชั่วโมง) โดยสายการบินฯ มีบริการอาหาร 2 รอบ คือ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า
27 ธ.ค. 2561เวียนนา - โคโลญจน์ - เชคอินลงเรือ
05.25 น. เดินทางถึง สนามบินเวียนนา (VIE) ประเทศออสเตรีย
07.15 น. ออกเดินทางจาก สนามบินเวียนนา (VIE) สู่ สนามบิน โคโลญจน์ (CGN) โดยเที่ยวบิน OS191 (ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง) 
08.55 น. เดินทางถึง สนามบินโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

นำท่านเข้าชม มหาวิหารโคโลญจน์ หรือที่รู้จักในนาม เคิล์นโดม (Cologne Cathedral) เป็นมหาวิหารโคโลญจน์แห่งเดียวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี 2536 จัดเป็นไฮไลท์ของเมืองที่นักเที่ยวไปเที่ยวชมมากที่สุด วิหารแห่งนี้ ใช้เวลาสร้างยาวนานถึง 600 ปี และปัจจุบันก็ยังมีการบูรณะซ่อมแซมอยู่ตลอด บริเวณใกล้กับวิหาร จะมีสะพานสายสำคัญทอดยาวข้ามแม่น้ำไรน์ เชื่อมตัวเมืองโคโลญจน์ทั้งสองฝั่งเข้าด้วยกัน

จากนั้นนำท่านเที่ยวชม ย่านเมืองเก่า (Old Town) แห่งเมืองโคโลญจน์ ซึ่งมีทั้งโบสถ์เก่าแก่อีกหลายหลัง เช่น Great St. Martin และ อาคารศาลาว่าการเมืองเก่าแก่ (City Hall) ตลอดจนพิพิธภัณฑ์ต่างๆมากมาย หรือท่านจะเลือกช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมที่มีให้เลือกสรร มากมายตลอดเส้นทางติดกับมหาวิหารโคโลญจน์
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตคารท้องถิ่น (เมนูขาหมูเยอรมัน)
13.00 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือเมืองโคโลญจน์ เพื่อเชคอินลงเรือสำราญ TC Sapphire

อิสระให้ท่านได้พักผ่อนบนเรือสำราญที่จะนำท่านสัมผัสประสบการณ์การ ล่องเรือแม่น้ำไรน์ ลัดเลาะไปตามริมชายฝั่งแม่น้ำสองข้างทาง สัมผัสบรรยากาศแปลกใหม่ กับการเดินทางที่จะทำให้ท่านได้เห็นทัศนียภาพสองข้าง ทั้งบ้านเรือนและธรรมชาติตลอดเส้นแม่น้ำไรน์ โดยเริ่มจากเมืองดุสเซลดอร์ฟแห่งนี้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ภายในเรือสำราญ

หลังอาหารค่ำอิสระให้ท่านได้ผ่อนคลายอิริยาบถ ภายในห้องคลับเลาจน์ที่ทางเรือมีจัดให้บริการ 
15.00 น. เรือสำราญ TC Sapphire ออกเดินทางจากเมืองโคโลญจน์ มุ่งหน้าสู่เมือง รอตเทอร์ดาม
28 ธ.ค. 2561รอตเทอร์ดาม - ไลเดิน - เดลฟท์
06.00 น. เรือสำราญจอดเทียบท่า ณ ท่าเรือเมืองรอตเทอร์ดาม
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองไลเดิน (Leiden) เป็นอีกเมืองในเขตของการปกครองเซาท์ฮอลแลนด์ เป็นเมืองที่มีความเก่าเเก่เเละสวยงามเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเเละสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของฮอลเเลนด์อย่างมาก จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งในจุดหมายปลายทางของการมาท่องเที่ยวเนเธอร์เเลนด์ เพราะเมืองเล็กๆ เเห่งนี้นับว่าสวยงามเเละมีอะไรให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาค้นหาเเละสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง

ความสำคัญของ เมืองไลเดิน มาจากประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งในตอนสงคราม 80 ปีกับสเปนที่เมืองไลเดินเเห่งนี้เป็นเมืองหน้าด่านเเละถูกปิดล้อมด้วยกองทัพเสปน ซึ่งในช่วงเเรกของการปิดล้อมนั้นจะเป็นช่วงเวลาระหว่างเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.1573 จนถึงเดือนมีนาคม ปี ค.ศ.1574 เเละกองทัพก็ล่าถอยออกไป ซึ่งช่วงเวลาที่ถูกปิดล้อมนั้น ชาวเมืองก็ต่อสู้ป้องกันเมืองอย่างขันเเข็งเเละเสบียงในเมืองนั้นก็มีอย่างพร้อมมูล เเต่ก็เหมือนกลลวงของกองทัพสเปน เมื่อพวกนั้นถอยทัพไม่นานก็ย้อนกลับมาใหม่เเบบไม่ทันให้ชาวเมืองตั้งตัวเเละไม่ได้สะสมเสบียงอาหารเอาไว้ทำให้การถูกปิดล้อมในครั้งนี้ ชาวเมืองเสียขวัญเเละกำลังใจอย่างมาก จนนายกเทศมนตรีของต้องออกมาพูดว่าถ้าไม่มีอะไรจะกินก็ให้กินตัวเองได้เลย หลังจากที่ถูกปิดล้อมนานกว่าสองเดือนจนถึงวันที่ 3 ตุลาคม ปี ค.ศ.1574 กลุ่มโจรสลัดที่นำทัพโดย William the Silent ตำเเหน่ง Prince of Orange ก็ตีฝ่าวงล้อมของกองทัพสเปนเข้ามาเพื่อนำเสบียงมาให้กับชาวเมืองได้สำเร็จ จึงทำให้ทุกๆ วันที่ 3 ตุลาคมของทุกปีนั้นที่เมืองเเห่งนี้จะมีการจัดงานรื่นเริงกันอย่างคึกคักเลยทีเดียว

นำท่านเที่ยวชมความสวยงามของเมืองประวัติศาสตร์ไลเดิน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองเดลฟท์ (Delft) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างอัมสเตอร์ดัมและเฮก โดดเด่นด้วยบ้านเรือนและอาคารยุคเรอแนซ็องส์มีแหล่งประวัติศาสตร์และโบราณสถาน เช่น โบสถ์ อาคาร บ้านเรือนยุคเก่าย้อนไปถึงศตวรรษที่ 13 -15 หลายแห่ง มีทัศนียภาพสวยงามโดยรอบ อีกทั้งยังเป็นแหล่งเซรามิกและงานฝีมือขึ้นชื่อของประเทศ

นำท่านเที่ยวชมและถ่ายรูปกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้ ไม่ว่าจะเป็น วิหารโกธิค (Oude Kerk) โบสถ์และสุสานเก่า (Nieuwe Kerk) ศาลาว่าการเมืองโบราณ (City Hall) และพิพิธภัณฑ์พรินเซนฮอฟ (Museum Prinsenhof) อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความน่ารักโรแมนติกของเมืองเล็กๆแห่งนี้ 

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองรอตเทอร์ดาม (Rotterdam) เมืองใหญ่เป็นอันดับสองของเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมาส นับเป็นเมืองท่าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งมีความยาวของพื้นที่เทียบท่าเรือยาวถึง 40 กิโลเมตร รอตเทอร์ดามมีลักษณะต่างจากเมืองอื่นๆในเนเธอร์แลนด์คือเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมยุคใหม่ และในปี ค.ศ. 2007 ได้รับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็น "เมืองแห่งสถาปัตยกรรม"

นำท่านถ่ายรูปกับ บ้านลูกเต๋า ไคก์คูมูส (Kijk Kubus The Cubic Houses) กลุ่มอาคารเหลืองขาวทรงลูกเต๋า  39 หลัง ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศการออกแบบสาขาประหยัดพลังงานโดยสถาปนิกนาม Piet Bloem  แวะถ่ายรูปกับ สะพานขาว อีราสมูส (Erasmus Bridge) และสะพานแดง วิลเลมส์บรูก์ (Willems Bridge) สองในสามสะพานซึ่งเชื่อมเมืองสองฝั่งที่ถูกคั่นกลางด้วยแม่น้ำมาสเข้าด้วยกัน

จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ  ศาลาว่าการประจำเมืองรอตเทอร์ดาม (City Hall of Rotterdam) อาคารซึ่งรอดพ้นจากการโดนถล่มเมืองโดยกองทัพของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
18.00 น. นำท่านเดินทางกลับสู่ เรือสำราญ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
22.00 น. เรือออกเดินทางจากท่าเรือเมืองรอตเทอร์ดาม มุ่งหน้าสู่ ท่าเรือแอนเวิร์ป อิสระให้ท่านผ่อนคลายกับการจิบ ชา กาแฟ และของว่างบนเรือ
29 ธ.ค. 2561แอนเวิร์ป - มิดเดิลบีรค์ - เบอร์เก้น ออฟ ซูม
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น. เรือเทียบท่า ณ ท่าเรือเมืองแอนเวิร์ป

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิดเดิลบีร์ค (Middleburg) เป็นเมืองและเทศบาลแห่งหนึ่งทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเนเธอร์แลนด์ และเป็นเมืองหลักของจังหวัดเซลันด์ มิดเดิลบืร์คตั้งอยู่ในคาบสมุทรตอนกลางของจังหวัดซึ่งมีชื่อว่า "มิดเดิน-เซลันด์" (ประกอบด้วยอดีตเกาะวัลเคอเริน, โนร์ด-เบเฟอลันด์ และเซยด์-เบเฟอลันด์)

นำท่านเที่ยวชม เมืองมิดเดิลบีร์ค

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ ศาลาว่าการเมือง (City hall) ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 15

จากนั้นนำท่าน แวะถ่ายรูปกับ บริษัท Dutch East India Company ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นในปี 1602 เป็นบริษัทที่ได้มีการทำการค้ากับชาวตะวันออกไกล อิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมความสวยงามของอีกเมืองเล็กๆน่ารักๆ แห่งเนเธอร์แลนด์

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมือง เบอร์เก้น ออฟ ซูม (Bergen Op Zoom) เมืองเล็กๆทางตอนใต้ของเนเธอร์แลนด์ เมืองนี้สร้างขึ้นบนผืนแผ่นดินที่ดินสองชนิดมาบรรจบกัน คือ ดินทราย และ ดินเหนียวจากปากแม่น้ำ เมืองนี้สร้างขึ้นบนเนิน ซึ่งในภาษาดัชช์ คำว่าเนิน เรียกว่า เบอร์เก้น (Bergen) ส่วนคำว่า Zoom หมายถึงช่องแคบ ดังนั้นเมืองนี้ได้ชื่อว่า Bergen op Zoom เพราะสร้างบนเนิน บริเวณฯช่องแคบนั่นเอง

นำท่านเที่ยวชม สถานที่สำคัญของเมือง ไม่ว่าจะเป็น ศาลาว่าการเมือง, โบสถ์ประจำเมือง ตลอดจนจัตุรัสใจกลางเมือง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองแอนเวิร์ป (Antwerp) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของตำนานยักษ์ ดรูโอน อันติโกน (Druoon Antigoon) ซึ่งในอดีตยักษ์ตนนี้ได้เคยอาศัยอยู่ใกล้ๆแม่น้ำสเกลท์ (Scheldt river)โดยยักษ์ได้ควบคุมการสัญจรไปมาของเหล่านักเดินที่ใช้เส้นทางในแม่น้ำสายนี้ และได้มีการเรียกเก็บค่าผ่านทาง โดยมีการกล่าวขานกันไว้อย่างน่าสะพรึงกลัวว่า ถ้าหากนักเดินเรือคนใดก็ตามที่อยากใช้เส้นทางสัญจรในแม่น้ำแม่น้ำสเกลท์ แล้วไม่ยอมจ่ายเงินค่าผ่านทางให้ยักษ์ นักเดินเรือผู้นั้นก็จะถูกจับตัดมือและโยนทิ้งแม่น้ำไป หลังจากที่เป็นเช่นนี้เรื่อยมาได้มีทหารกล้าชาวโรมัน ที่มีนามว่า ซิลวิอุส บราโบ (Silvius Brabo) รู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของยักษ์ตนนี้ จึงได้ทำการฆ่ายักษ์และตัดมือของยักษ์โยนทิ้งลงไปในแม่น้ำสเกลท์ เช่นกันกับที่ยักษ์เคยทำกับนักเดินเรือ หลังจากเวลาผ่านไป บริเวณที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของยักษ์ก็ได้กลายเป็นเมืองใหญ่ และได้มีการเรียกชื่อเมืองแห่งนี้ว่า อานท์แวร์เพิน (Antwerpen) โดยคำว่า Werpen แปลว่าโยนทิ้งไปนั่นเอง

นำท่านชม บริเวณจัตุรัสใจกลางเมือง ที่เรียกว่า โกรต มาร์ก (Grote Markt) จุดที่เป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมือง และยังเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง (town hall) อาคารเกาแก่อายุหลายร้อยปี และถือว่าเป็นอาคารที่สวยที่สุดในบริเวณจัตุรัสแห่งนี้ก็ว่าได้ ชื่นชมในความงดงามของกลุ่มอาคารที่สร้างขึ้นแบบเรเนสซองส์ที่ตั้งเรียงรายอยู่ในจัตุรัส

นำท่านชม ลานน้ำพุกับรูปปั้นของซิลวิอุส บราโบ หรือทีเรานิยมเรียกกันว่า รูปปั้นบาร์โบ (Brabo statue) วีรบุรุษผู้กล้าในตำนานของเมือง โดยรูปปั้นนั้นตั้งอยู่ด้านหน้าของศาลาว่าการเมือง

ชม สายน้ำที่ไหลพุ่งจากมือที่ถูกตัด โดยสายน้ำนั้นประดุจดังเลือดของยักษ์ผู้พ่ายแพ้ไหลรินสู่พสุธา

จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์พระแม่ (Cathedral of Our Lady) หรือเรียกกันอีกชื่อว่า Onze Lieve Vrouwekathedraal เป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นในแบบกอธิค ที่ถือได้ว่าใหญ่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1352 ถึง 1521  โดยตัวโบสถ์นั้นมีความสูงมากกว่า 400 ฟุต ภายในโบสถ์ถูกประดับประดาไปด้วยหน้าต่างกระจกสี รวมถึงภาพเขียนชิ้นเยี่ยมของศิลปินชื่อดังคือ ปีเตอร์ พอล รูเบนส์ (Peter Paul Rubens) อีกด้วย

จากนั้นนำท่านเข้าชม ปราสาทหิน (Het Steen) ซึ่งเป็นปราสาทยุคกลางขนาดเล็ก เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะเวียนมาเยือนทุกครั้งเมื่อมาเมืองแอนเวิร์ป โดยตัวปราสาทนั้นตั้งอยู่ริมแม่น้ำสเกลท์ ใกล้ๆกับปราสาทยังมีร้านกาแฟ / ร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย 
19.00 น. นำท่านเดินทางกลับสู่ เรือสำราญ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
23.59 น. เรือออกเดินทางจากท่าเรือเมืองแอนเวิร์ป มุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือเมืองดอร์เดรชท์

หลังอาหารค่ำอิสระให้ท่านได้ผ่อนคลายอิริยาบถ ภายในห้องคลับเลาจน์ที่ทางเรือมีจัดให้บริการ 
30 ธ.ค. 2561เมืองดอร์เดรชท์ 
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น. เรือเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือเมืองดอร์เดรชท์

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้าน Kinderdijk แห่ง South Holland อีกหนึ่ง มรดกโลกที่ถูกขึ้นทะเบียน Unesco ตั้งแต่ปี 1997 เป็นแหล่งรวมกังหันเก่าที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 และในหมู่บ้านแห่งนี้มีกังหันเก่าถึง 19 ตัว อิสระให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศความสวยงามของหมู่บ้านแห่งนี้ตามอัธยาศัย

ได้เวลานำท่านเที่ยวชม เมืองดอร์เดรชท์ (Dordrecht) อีกหนึ่งเมืองเก่าแก่ที่สุด ของ South Holland เมืองท่าริมฝั่งแม่น้ำ Thure เมืองนี้เป็นเมืองการค้าสำคัญตั้งแต่ศตวรรษที่ 12-13 เนื่องจากชัยภูมิที่ดี ทั้งไวน์ ไม้ ตลอดจนธัญพืช จึงมีการค้าขายแลกเปลี่ยนที่นี่ ตั้งแต่โบราณ นำท่านเดินเล่นภายในเมืองเก่าแห่งนี้
11.00 น. นำท่านเดินทางกลับสู่เรือสำราญ
12.00 น. เรือสำราญออกเดินทางจาก ท่าเรือเมืองดอร์เดรชท์ สู่ท่าเทียบเรือเมืองอัมสเตอร์ดัม
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ
บ่าย เรือสำราญล่องผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งท่านสามารถชื่นชมธรรมชาติ วิวทิวทัศน์อันแปลกตา สองฝั่งริมน้ำไรน์ ท่านสามารถชมวิวบนชั้นดาดฟ้าของเรือ หรือจะเลือกนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ที่ทางเรือมีบริการ อิสระให้ท่านได้พักผ่อนและดื่มด่ำกับธรรมชาติอันสวยงามแห่งแม่น้ำไรน์ตอนบน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

หลังอาหารค่ำอิสระให้ท่านได้ผ่อนคลายอิริยาบถ ภายในห้องคลับเลาจน์ที่ทางเรือมีจัดให้บริการ หรือท่านจะ  เลือกเดินเล่นเก็บภาพบรรยากาศตลาดคริสตมาสยามค่ำคืนได้เช่นกัน
22.30 น. เรือเทียบท่า ณ ท่าเรืออัมสเตอร์ดัม หากลูกค้าต้องการออกไปเดินเล่นยามค่ำคืน สามารถทำได้เช่นกัน
31 ธ.ค. 2561อัมสเตอร์ดัม - ฮาอาเลม - ซานส์คันส์ - New Year Count Down 2019 
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

นำท่านเดินทางสู่  เมืองฮาอาเลม (Haarlem) หนึ่งในเมืองหลวงของจังหวัดทางตอนเหนือของเนเธอร์แลนด์ ระยะห่างจากกรุงอัมสเตอร์ดัมเพียง 20 กิโลเมตร ประชากรของเมืองนี้มีเพียงราว 150,000 คน แต่เนื่องด้วยอาณาเขตเมืองที่มีเนื้อที่เพียงราว 32 ตารางกิโลเมตร ทำให้เป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโซนยุโรป นอกจากนี้ เมืองฮาอาเลม เป็นหนึ่งในเมืองที่เคยถูกเสนอให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.2011 แต่สุดท้ายถูกถอนออกเมื่อปี ค.ศ.2013

นำท่านเที่ยวชม โกรทมาร์ท (Grote Markt) จัตุรัสใจกลางเมืองอันเป็นที่ตั้งของโบสถ์ใหญ่อย่าง Haarlem’s magnificent Cathedral ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 14  จากนั้นนำท่านเดินเล่นและเที่ยวชมบรรยากาศของเมืองแห่งประวัติศาสตร์แห่งนี้ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามตามอัธยาศัย

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองซานส์คันส์ (Zaanse Schans) ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์เปิด ท่านสามารถเข้าชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวดัชต์ ที่ใช้กังหันลมกว่าร้อยแห่ง ในงานอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17-18 โดยทำหน้าที่ผลิตน้ำมันจากดอกมัสตาร์ด กระดาษ งานไม้ นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ อาทิ พิพิธภัณฑ์เบเกอรี่–ชีสฟาร์ม นาฬิกา ร้านขายเครื่องกาแฟและชา

นำท่านแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ  กังหันน้ำมัน (De Zoeker Oil Windmill) กังหันโบราณซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1672 ใช้ในการแปรรูปน้ำมันเป็นพลังงานในการขับเคลื่อนตัวสุดท้ายที่ยังใช้งานอยู่จากจำนวนทั้งหมด 5 ตัวที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีโรงงานที่ผลิตรองเท้าจากไม้พลับเพลาที่อยู่คู่กับชาวดัชต์มาแต่โบราณกาล สาเหตุเพราะประเทศเนเธอร์แลนด์ (หรือฮอลแลนด์) เป็นประเทศอยู่ในเขตที่มีความชื้นสูง ชาวดัชต์จึงคิดประดิษฐ์รองเท้าที่มีประสิทธิภาพกันความชื้นได้สูง และรองเท้าไม้นี่ยังมีอายุการใช้งานที่นานอีกด้วย อิสระให้ท่านมีเวลาซื้อของฝากตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัมสเทล (Amstel) ซึ่งได้ชื่อว่ามีลำคลองลดเลี้ยวไปรอบเมืองถึง 165 คลองด้วยกัน เมืองนี้เริ่มก่อตั้งประมาณคริสตศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์

นำท่าน ล่องเรือกระจก ชมชีวิตความเป็นอยู่ชาวดัชต์ ที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 มีเอกลักษณ์พิเศษจะเป็นอาคารทรงแคบ ที่มีตะขออยู่ชั้นบนสุดของตัวอาคารเอาไว้ขนเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน ระหว่างเส้นทางล่องเรือ ผ่านบ้านเรือนที่อยู่ ริมคลองที่มีอยู่มากถึง 2,500 หลัง

จากนั้นนำท่านเข้าชม โรงงานเจียระไนเพชรและอัญมณี อุตสาหกรรมจากวิทยากรผู้ชำนาญตลอดจนขั้นตอนการเจียระไนเพชรให้เป็นอัญมณีที่มีค่าสุดและมีชื่อเสียงที่สุดในโลก

ได้เวลานำท่านสู่ กาลเวอร์ สตราท (Kalver Straat) เป็นถนนชอปปิ้งสายสำคัญของชาวอัมสเตอร์ดัม และของนักท่องเที่ยวด้วย ถนนสายนี้จะคลาคล่ำไปด้วยร้านรวงขายของและสินค้าของที่ระลึกให้เลือกซื้อหาเป็นของขวัญของฝากอย่างมากมาย อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย 
19.00 น. นำท่านกลับสู่ เรือสำราญ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

แนะนำให้ท่านเดินเล่นชม กรุงอัมสเตอร์ดัม ยามค่ำคื่นที่ประดับตกแต่งด้วยไฟ และ ต้นคริสตมาส เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสตมาส และ เทศกาลปีใหม่ ร่วมกิจกรรม Countdown เพื่อต้อนรับปีใหม่ 2019 ณ เมืองอัมสเตอร์ดัม
1 ม.ค. 2561อัมสเตอร์ดัม - อาร์เนม - ยูเทรกต์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
05.00 น. เรือออกจากท่าเทียบเรือเมืองอัมสเตอร์ดัม มุ่งหน้าสู่ ท่าเรือเมืองอาร์เนม

เรือสำราญล่องผ่านหมู่บ้านเล็กๆซึ่งท่านสามารถชื่นชมธรรมชาติ วิวทิวทัศน์อันแปลกตา สองฝั่งริมน้ำไรน์ ท่านสามารถชมวิวบนชั้นดาดฟ้าของเรือ หรือจะเลือกนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ที่ทางเรือมีบริการ อิสระให้ท่านได้พักผ่อนและดื่มด่ำกับธรรมชาติอันสวยงามแห่งแม่น้ำไรน์ตอนบน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
13.00 น. เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเรือเมืองอาร์เนม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองยูเทรกต์ (Utrecht) หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวอันซีนของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีชื่อเสียงไม่น้อยไปกว่าอัมสเตอร์ดัมและเดอะเฮก เมืองยูเทรกต์ตั้งอยู่ในตอนกลางของประเทศเนเธอร์แลนด์ และยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองมหาวิทยาลัยอีกด้วย ภายในเมืองเต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องอันเก่าแก่ ซึ่งบางหลังมีมาตั้งแต่ยุคคริสต์ศตวรรษที่ 18 ส่วนใหญ่ได้ รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน และได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี

นำท่านเดินชมความงามของตัวเมืองเก่าตลอดสองข้างคลองเก่าที่ทอดยาวผ่านใจกลางของตัวเมือง

จากนั้นนำท่านกลับสู่ เมืองอาร์เนม (Arnhem) ซึ่งเป็นเมืองและเทศบาลทางตะวันออกของประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเกลเดอร์ลันด์ เป็นเมืองเก่าที่มีการเอ่ยถึงเป็นครั้งแรกใน ค.ศ. 893 ในสมัยกลางได้เข้าเป็นสมาชิกของสันนิบาตฮันซาซึ่งเป็นพันธมิตรทางการค้าในยุโรป และตกอยู่ใต้การยึดครองของชาติต่าง ๆ หลายชาติ ในสงครามโลกครั้งที่สอง ถูกเยอรมนีเข้ายึดครอง และฝ่ายพันธมิตรยึดคืนได้ใน ค.ศ. 1945

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ ศาลาว่าการเมือง (City Hall) โบสถ์ที่มีความสำคัญประจำเมือง Stichting Eusebius Arnhem

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ สะพานจอห์น ฟรอท (John Frost Bridge) อิสระให้ท่านเก็บภาพตามอัธยาศัย
 
18.00 น. นำท่านเดินทางกลับสู่ เรือสำราญ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

หลังอาหารค่ำอิสระให้ท่านได้ผ่อนคลายอิริยาบถ ภายในห้องคลับเลาจน์
2 ม.ค. 2562เมืองไนเมเคิน
04.00น. เรือสำราญออกเดินทางจากท่าเทียบเรือเมืองอาร์เนม สู่ ท่าเทียบเรือเมืองไนเมเคิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น. เรือเทียบท่า ณ ท่าเรือเมืองไนเมเคิน
08.30 น. นำท่านเที่ยวชม เมืองไนเมเคิน (Nijmegen) ซึ่งเป็นเมืองและเทศบาลริมฝั่งแม่น้ำวาล ทางตะวันออกของประเทศเนเธอร์แลนด์ ใกล้กับชายแดนประเทศเยอรมนี ถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ เฉลิมฉลองครบ 2,000 ปี ในปี ค.ศ. 2005 เมืองนี้เคยเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวโรมัน จักรพรรดิในราชวงศ์การอแล็งเฌียงเคยประทับที่เมืองนี้เป็นช่วงเวลาหนึ่ง ภายหลังเข้าเป็นสมาชิกสันนิบาตฮันซา เป็นสถานที่ลงนามในสนธิสัญญาสงบศึกหลายฉบับระหว่าง ค.ศ. 1678-1679 เพื่อยุติสงครามระหว่างฝรั่งเศสกับฮอลแลนด์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองได้รับความเสียหายอย่างหนัก ฝ่ายพันธมิตรเข้ายึดในเดือนกันยายน ค.ศ. 1944
13.00 น. นำท่านกลับสู่ เรือสำราญ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้อง อาหารภายในเรือสำราญ
14.00 น. เรือออกเดินทางจากท่าเทียบเรือเมืองไนเมเคิน สู่ ท่าเทียบเรือเมืองโคโลญจน์

เรือสำราญล่องผ่านหมู่บ้านเล็กๆซึ่งท่านสามารถชื่นชมธรรมชาติ วิวทิวทัศน์อันแปลกตา สองฝั่งริมน้ำไรน์ ท่านสามารถชมวิวบนชั้นดาดฟ้าของเรือ หรือจะเลือกนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ที่ทางเรือมีบริการ อิสระให้ท่านได้พักผ่อนและดื่มด่ำกับธรรมชาติอันสวยงามแห่งแม่น้ำไรน์ตอนบน
3 ม.ค. 2562เมืองโคโลญจน์ - เมืองอาเคิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น. เรือเทียบท่า ณ ท่าเรือเมืองโคโลญจน์

นำท่านเชคเอาท์ และรับกระเป๋าสัมภาระ

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอาเคิน (Aachen) หรือ บัดอาเคิน (Bad Aachen) โดย Bad หมายถึงน้ำ ที่ได้ชื่อเช่นนี้เนื่องมาจากภายใต้เมืองอาเคินมีสายน้ำร้อนธรรมชาติอยู่มากมาย น้ำแร่ใต้ดินนี้ มีความเชื่อว่าสามารถนำมาดื่มเพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ในปัจจุบันเมืองอาเคินได้นำน้ำแร่ใต้ดินนี้ไปเปิดบริการเป็นสปาแบบทันสมัยให้แก่ประชาชน โดยใช้ชื่อว่า Carolus Thermen 

นำท่านชม มหาวิหารอาเคิน (Aachen Dome) อันเก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ยาวนาน นับเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวของเมือง มหาวิหารแห่งอาเคินนี้ถูกจัดเป็นมรดกโลกของยูเนสโก มหาวิหารนี้เป็นโบสถ์แบบกอธิคผสมกับกาโล-โรมัน ซึ่งได้รับอนุญาตจากพระสันตปาปาแห่งกรุงโรมให้สร้างโบสถ์นี้ในปี ค.ศ. 786 และสร้างเสร็จเมื่อ ค.ศ. 805 โดมนี้ถูกใช้เป็นสถานที่แต่งตั้งกษัตริย์ของเยอรมนีในสมัยก่อนมาแล้วหลายพระองค์ อีกทั้งยังมีหีบศพทองคำของพระเจ้าชาร์เลอมาญ อยู่ด้วย ที่ลานกว้างหน้าโดมนี้ จะถูกใช้เป็นที่รับรางวัลคาร์ล ในทุกๆ ปี รางวัลคาร์ลนี้จะมอบให้กับผู้ที่ส่งเสริมสันติภาพในยุโรป ตัวอย่างของบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ได้รับรางวัลคาร์ลได้แก่ บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และ โทนี แบลร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร นอกจากนี้อาเคินยังเป็นจุดกำเนิดของขนมที่ชื่อว่าพรินเทิน (Printen หรือ Aachener Printen) ซึ่งมีชื่อเสียงในประเทศเยอรมนี พรินเทินเป็นขนมลักษณะคล้ายคุกกี้ ที่มีส่วนผสมของอบเชย และมักทำออกมาโดยพิมพ์รูปต่าง ๆ เช่น รูปพระจักรพรรดิคาร์ล

นำท่านเที่ยวชมความสวยงามของเมืองอาเคิน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ Cologne Fashionesta Outlet

อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากและช้อปปิ้งตามอัธยาศัย หากท่านต้องการซื้อสินค้าแบรนด์เนม สามารถเลือกซื้อได้ ณ บริเวณ ถนนช้อปปิ้งสตรีท ใกล้มหาวิหารโคโลญจน์
17.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินโคโลญจน์ เพื่อเชคอิน
19.55 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเวียนนา โดยเที่ยวบิน OS 156
21.25 น. เดินทางถึง สนามบินเวียนนา แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน พร้อมทำ Tax Refund (กรุณาเตรียมของเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่)
23.20 น. ออกเดินทาง จากสนามบินเวียนนา สู่กรุงเทพมหานคร โดย เที่ยวบิน OS 25 (ใช้เวลาบินประมาณ 10 ชั่วโมง)

สายการบินบริการอาหารค่ำและอาหารเช้าบนเครื่องบิน
4 ม.ค. 2562กรุงเทพมหานคร
15.20 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)



ดาวน์โหลดใบจอง
   
            ดาวน์โหลดใบจอง (Word)       ดาวน์โหลดใบจอง (PDF)

เงื่อนไขในการจอง

ข้อแนะนำและแจ้งเพื่อทราบ
  • กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  • กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 23 กก. กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Hand carry) น้ำหนักไม่เกิน 7 กก. 
โปรแกรมท่องเที่ยวล่องเรือสำราญ (ตามที่ระบุไว้ในรายการ) อัตรานี้รวมถึง
  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ส (กระเป๋าเดินทาง นน. ไม่เกิน 23 กก./ท่าน)
    (กระเป๋าเดินทางใบใหญ่เพื่อโหลดได้ 1 ใบเท่านั้น หากท่านเอาไปเพิ่ม สายการบินคิดใบละ 200 Euro / เที่ยวบิน)
  • ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ 
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท
  • ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท   (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (ห้องพักบนเรือสำราญ)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุในโปรแกรม, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว
  • ค่าวีซ่าเชงเก้น
  • เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง และทิปหัวหน้าทัวร์, คนขับรถ
อัตรานี้ไม่รวมถึง
  • ค่าทิปพนักงานให้บริการบนเรือ Service fee ท่านละ 50 ยูโร
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์-แฟกซ์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
การชำระเงิน
  • งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 35,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วัน หลังได้รับการยืนยันกรุ๊ปออกเดินทางแน่นอนสำรองที่นั่ง (ผู้เดินทางพักเดี่ยว) ท่านละ 50,000 บาท
  • งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 60 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
กรณียกเลิก
  • ยกเลิก 120 วัน ล่วงหน้าก่อนเดินทาง (ไม่มีค่าใช้จ่าย) 
  • ยกเลิก 90-119 วัน ล่วงหน้าก่อนเดินทาง หักค่ามัดจำ 25%
  • ยกเลิก 60-89 วัน ล่วงหน้าก่อนเดินทาง หักค่ามัดจำ 50%
  • ยกเลิก 30-59 วัน ล่วงหน้าก่อนเดินทาง หักค่ามัดจำเต็มจำนวน 
  • ยกเลิก 08-29 วัน ล่วงหน้าก่อนเดินทาง หักค่าใช้จ่ายเต็มจำนวน
  • ยกเลิก น้อยกว่า 7 วัน ล่วงหน้าก่อนเดินทาง หักค่าใช้จ่ายเต็มจำนวน
    ***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***
หมายเหตุ : 
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางใน กรณีที่มีผู้เดินทางต่ำกว่า 20 ท่าน โดยจะแจ้งให้ ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน  การนัดหยุดงาน  การประท้วง  ภัยธรรมชาติ  การก่อจราจล  อุบัติเหตุ  ปัญหาการจราจร ฯลฯ   ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
  • การท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ท่านไม่สามารถเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฎิเสธหรือสละสิทธิ์ การใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้น ท่านได้ทำการตกลงหรือแจ้งให้ทราบก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฎิเสธวีซ่าและจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระ มาแล้ว  หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง อันเนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการ หลบหนีเข้าเมือง ฯลฯ
  • สถานฑูตเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่า และไม่คืนทุกกรณี
  • ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ  บริษัทฯสงวนสิทธิ์ที่จะ ไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่งเพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคธรรมดา 
กรณีเดินทางโดยลูกค้าจัดการตั๋วเครื่องบินเอง (Land Only)
  • ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม
ตั๋วเครื่องบิน
  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  • ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
  • กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  • วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตราการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
  • หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด
สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ
  • สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฎิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
  • ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  • กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)
การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย
  • ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
  • กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯจะพิจารณาชดเชยค่าเสียหายให้ท่าน โดยชดใช้ตามกฎของสายการบินเท่านั้น นั่นหมายถึงจะชดเชยตามน้ำหนักกระเป๋า คูณ ด้วยค่าชดเชย USD 20 ต่อกิโลกรัมเท่านั้น ดังนั้นท่านจึงไม่ควรโหลดของมีค่าทุกประเภทในกระเป๋าใบใหญ่ เพราะหากเกิดการสูญหาย ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การชดเชยค่าเสียหายตามรายระเอียดข้างต้นเท่านั้น
  • กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ 

ค้นหา
คำค้น
ช่วงเวลา
รายการทัวร์
ค้นหา


 

Add line Triple Enjoy