รายละเอียดทัวร์

www.TripleEnjoy.com
by Double Enjoy Travel Co., Ltd.

300/50 Nawamin Road, Nawamin, Buengkum, BKK 10240
Tel: 02-379-2955  Hotline: 099-130-6886  Fax: 02-379-1163 (Auto)

 Website: www.tripleenjoy.com   E-mail: [email protected]


 

Juristic Identification No. 0125554005216                                                               TAT License No. 11/05307


ทัวร์เชค

TE269 : ทัวร์ยุโรปตะวันออก คลาสสิคยุโรปตะวันออก (เยอรมนี - ออสเตรีย - เช็ก) 8 วัน 5 คืน (LH/OS)


คัดลอก URL คัดลอก URL
TE269 : ทัวร์ยุโรปตะวันออก คลาสสิคยุโรปตะวันออก (เยอรมนี - ออสเตรีย - เช็ก) 8 วัน 5 คืน (LH/OS)
 

ทัวร์ยุโรปตะวันออก คลาสสิคยุโรปตะวันออก (เยอรมนี - ออสเตรีย - เช็ก)

มิวนิค | อูบาอามาเกา | ฟุสเซ่น | ปราสาทนอยส์ชวานสไตน์ | ซาลส์บวร์ก | เซ็นต์วูลฟ์กัง | ฮอลสตรัท | ลินซ์ | เชสกี้ ครุมลอฟ | ปราก | เบอร์โน | เวียนนา 


กำหนดการเดินทาง

รหัสทัวร์วันที่เดินทางเดินทางโดยราคาเริ่มต้นสถานะ
TE269-00211-18 ก.ค. 68Lufthansa airlines (LH)89,900จองด่วน
TE269-00322-29 ก.ย. 68Lufthansa airlines (LH)89,900จองด่วน
TE269-00409-16 ต.ค. 68Lufthansa airlines (LH)89,900จองด่วน
TE269-00521-28 ต.ค. 68Lufthansa airlines (LH)89,900จองด่วน
TE269-00625 ธ.ค. 68-01 ม.ค. 69Lufthansa airlines (LH)95,900จองด่วน
 
รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพมหานคร
20.30 น.    คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เชคอินสายการบินลุฟท์ฮันซ่า แถว G 1-6 ประตูทางเข้าที่ 4 อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
23.30 น. ออกเดินทางสู่ มหานครแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมนี โดย สายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบิน LH773 (ใช้เวลาบินประมาณ 12 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์และจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง ทั้งนี้สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำ และอาหารเช้า บนเครื่องบิน
วันที่ 2มิวนิค
08.35 น. เดินทางถึงสนามบิน มิวนิค นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

นำท่านเดินทางสู่ใจกลาง เมืองมิวนิค (Munich) เมืองทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย (Bavaria) มิวนิคเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจเข้มแข็งที่สุดในประเทศเยอรมนีและเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป และยังเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมในการท่องเที่ยวมากที่สุด นับเป็นเมืองแห่งศิลปะและสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรค สัมผัสกลิ่นอายขนบธรรมเนียมประเพณีแบบบาวาเรียนแท้ๆ นำท่านเที่ยวชมประตูแห่งชัยชนะ อาคารบ้านเรือน ที่เรียงรายอยู่บนถนนอันสวยงาม ถนนเม็กซิมิลเลี่ยน โอเปร่าเฮ้าซ์ และเขตพระราชวังเก่า

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์พระแม่มารี (Frauenkirche) ยอดโบสถ์เป็นทรงหัวหอมคู่ เป็นศิลปะแบบโกธิค ทำจากอิฐแดง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมิวนิคที่เรารู้จักกันดีตามหนังสือท่องเที่ยวต่างๆ มีความสูงประมาณ 99 เมตร ตัวโบสถ์สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1468 แต่ถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และได้รับการบูรณะใหม่ในปี ค.ศ. 1953

นำท่านชม จตุรัสมาเรียนพลัส (Marianplatz Square) ชมศาลาว่าการเมือง ซึ่งทุกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. ของทุกๆวันจะมีเสียงนาฬิกาตีบอกจังหวะและตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ เป็นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ชมย่านการค้าโดยรอบจตุรัสมาเรียนพลัส ทั้งร้านค้าพื้นเมืองและตลาดสินค้าการเกษตร นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของยุโรปทั้งหลายตั้งเรียงรายกันเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Hugo Boss, Chanel, Giorgio Armani เป็นต้น อิสระในช่วงบ่ายให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกนั่งจิบกาแฟ, ทานไอศครีม, หรือดื่มเบียร์เยอรมันที่ขึ้นชื่อได้ตามร้านค้าบริเวณรอบๆ จัตุรัสแห่งนี้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่ายนำท่านเดินทางสู่ Outlet Ingolstadt Village ช้อปปิ้งเอาท์เลตขนาดใหญ่ อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าและเสื้อผ้าแบรนด์เนม หรือจะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำซึ่งมีร้านค้ามากมาย อาทิ VALENTINO, VERSACE, SWAROVSKI, LACOSTE, JIMMY CHOO, GUESS, CALVIN KLEIN, ASICS, BALLY และอื่นๆ อีกมากมาย 
ค่ำ***เพื่อให้ท่านช้อปปิ้งอย่างเต็มที่ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย***
ที่พัก Arcona Living hotel หรือ Mercure Orbis **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 3มิวนิค - นอยส์ชวานสไตน์ - อูบาอามาเกา
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (Fussen) (ระยะทาง 130 ก.ม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) แคว้นบาวาเรียซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเยอรมัน ชื่นชมกับทิวทัศน์ริมสองข้างทางที่เต็มไปด้วยความเขียวขจีของขุนเขา

นำท่านถ่ายรูปปราสาทโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau Castle) ซึ่งเป็นปราสาทที่อยู่ถัดลงมาจากปราสาทนอยชวานชไตน์ จุดเด่นของปราสาทแห่งนี้คือภาพวาดเรื่องราวอัศวินแห่งหงส์ในนิยายพื้นบ้านอันเลื่องชื่อ

จากนั้นนำท่านนั่งรถมินิบัสเพื่อเข้าชมปราสาทนอยส์ชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) หรือท่านจะเลือกเดินออกกำลังกายเพื่อขึ้นชมปราสาทแห่งนี้ก็ได้ ปราสาทนอยส์ชวานสไตน์เป็นหนึ่งในปราสาทราชวังที่มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 18–19 รัชสมัยของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 ตามจินตนาการของกวีเอกชาวเยอรมัน ริชาร์ด วากเนอร์ ตัวปราสาทมีที่ตั้งอันน่าทึ่งบนหินผาขนาดใหญ่ยักษ์ สูงกว่า 200 เมตร เหนือแม่น้ำพอลลัท พร้อมชื่นชมธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงาม ท่านจะประทับใจไปกับความงามและบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกดังเทพนิยาย ซึ่ง วอลซ์ ดิสนีย์ ได้จำลองแบบไปสร้างปราสาทไว้ในดิสนีย์แลนด์ทุกแห่งในโลก  จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของดิสนีย์แลนด์ 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่ายนำท่านเดินทางสู่ เมืองอูบาอามาเกา (Oberammergau) (ระยะทาง 49 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) หมู่บ้านเล็กๆทางตอนใต้สุดของเยอรมันซึ่งใกล้กับพรมแดนประเทศออสเตรีย มีชื่อเสียงด้านการเพ้นท์กำแพงบ้านให้สวยงาม ทำให้บ้านเรือนในเมืองนี้รวมถึงร้านค้าแทบทุกหลังมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชม นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์คาทอลิชเคอเช่ (Katholische Kirche) ด้านบนมีหอคอยเดี่ยว ยอดหอคอยมีลักษณะคล้ายหัวหอมสีเขียวสวยงามลงตัว

จากนั้นนำท่านเที่ยวชมเมืองอูบาอามาเกา ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการเพ้นท์ที่เรียกว่า ลุฟเทิ้ลมาลเลอไร (Luftlmalerei) โดยมีการเพ้นท์ผนังบ้านด้วยลวดลายน่ารักๆ คล้ายมีคนยืนอยู่ตรงหน้าต่าง ไปจนถึงเรื่องราวที่เกี่ยวกับศาสนา อิสระให้ท่านเดินเล่นถ่ายรูปกับสีสันลวดลายการเพ้นท์ผนังบ้านในเมืองน่ารักแห่งนี้ตามอัธยาศัย 
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พักMercure Garmisch หรือ Koenigshof **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 4ฟุสเซ่น – ซาลส์บวร์ก – ฮอลสตรัท – ลินซ์  
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg)  (ระยะทาง 231 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เมืองแสนสวยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำซาลซ่า มีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ซึ่งตั้งอยู่ในอ้อมกอดของขุนเขาทุ่งหญ้าเขียวขจี และทะเลสาบมองต์เซ ซึ่งเคยใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์เพลงชื่อก้องโลก The Sound of Music นอกจากนี้ท่านยังสามารถพบเห็นศิลปะแบบโมเดิร์นในเมืองซาร์ลบวร์ก (Modern Art in Salzburg) โดยตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 มูลนิธิซาร์ลบวร์ก (Salzburg Foundation) ได้มอบหมายให้ศิลปินร่วมสมัยที่มีผลงานโดดเด่นมาร่วมสร้างสรรค์ชิ้นงานสำหรับวางโชว์ในที่สาธารณะกลางแจ้งในจุดต่างๆ ของซาร์ลบวร์ก

นำท่านแวะชม บ้านเกิดของศิลปินเอกผู้แต่งเพลงคลาสสิคชื่อก้องโลกชาวออสเตรียนนามว่าโมสาร์ท (Mozart) ผู้ซึ่งสร้างผลงานทางด้านดนตรีไว้อย่างมากมาย บริเวณใจกลางเมืองซาลส์บวร์กจะมีถนนเล็กๆ ที่คึกคักมากเพราะเป็นย่านธุรกิจสำคัญ ซึ่งเต็มไปด้วย ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายหนังสือ ร้านอาหาร และร้านขายของฝากมากมาย อิสระให้ท่านเดินเล่นชมบรรยากาศและถ่ายรูปเมืองซาลส์บวร์กตามอัธยาศัย  5/5/2025
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่ายนำท่านเดินทางสู่ เมืองฮอล์สตรัท (Hallstatt) เมืองมรดกโลกเก่าแก่อายุกว่า 4,000 ปี ซึ่งมีทิวทัศน์ที่สวยงามและดึงดูดนักเดินทางมากมายให้มายังเมืองแห่งนี้ เมืองฮอล์สตรัทเป็นเมืองเล็กๆริมทะเลสาบ มีประชากรอาศัยไม่ถึง 1,000 คน  มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงชัน บ้านเรือนในเมืองนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่แคบๆ ริมทะเลสาบ Halls tatter Sea  จึงต้องสร้างลดหลั่นเป็นชั้นๆ ตามแนวเขาเหมือนกับสวนลอยฟ้า จนผู้คนที่เคยได้มาเยือนถึงกับขนานนามกันว่าเมืองนี้สวยจนเป็นแบบในโปสการ์ดหรือวอลเปเปอร์

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองลินซ์ (Linz) (ระยะทาง 128 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ อดีตเคยเป็นค่ายนาซีในสมัยการปกครองของเยอรมัน โดยอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ นับเป็นเมืองที่แฝงความสวยงามของศิลปะและสถาปัตยกรรมสไตล์บารอค และรอคโคโค  
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก Austria Trend Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 5ลินซ์ – เชสกี้ คลุมลอฟ – ปราก  
เช้า        รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
 
นำท่านชม จตุรัสกลางเฮาพท์พลัทซ์ (Haupt Platz Square) ซึ่งล้อมรอบด้วยอาคารรัฐสภาประจำเมืองที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1513 และมหาวิหารเก่าพอสลินเบิร์ค (Postlingberg Church) ในนิกายเยซูอิตที่มีหอคอยคู่สูงเสียดฟ้า

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเชสกี้ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) หนึ่งในเมืองมรดกโลกแห่งสาธารณรัฐเช็ก เพชรน้ำงามแห่งโบฮีเมีย (ระยะทาง 70 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1992  ตัวเมืองตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำวัลตาวา มีความโดดเด่นด้วยอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 หลัง จึงได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่ายนำท่านเข้าชม ปราสาทครุมลอฟ (Krumlov castle) สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1250 เป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา จะเป็นรองก็แต่ปราสาทปรากเท่านั้น มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวัลตาวา ตรงบริเวณคุ้งน้ำพอดี ฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองเก่าคลาสสิคบริเวณจตุรัสกลางเมือง ณ จุดชมวิวภายในปราสาท ท่านจะได้เห็นวิวเมืองเชสกี้ คลุมลอฟ ในมุมสูง ซึ่งสวยงามตะการตา

นำท่านเดินทางเมืองปราก (Prague) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ "นครร้อยยอด" (ระยะทาง 172 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) 
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
ที่พักBellevue หรือ The Old Inn หรือ  Myln **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 6ปราก – ปราสาทแห่งกรุงปราก – โบสถ์เซนต์ไวตัส - เบอร์โน - เวียนนา
เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 

นำท่านเที่ยว ชม กรุงปราก ดินแดนของสาธารณรัฐเช็ก เป็นที่เลื่องลือและมีผู้คนเดินทางไปชมเมืองที่มีประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปราว 2,000 ปี จึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สถาปัตยกรรมแบบ โรมันเนสก์ โกธิค เรเนซองส์ บารอค รวมทั้งศิลปะรูปแบบต่างๆทำให้กรุงปรากเป็นเมืองที่แสดงให้เห็นถึงประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมัน และองค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้กรุงปรากเป็นเมืองมรดกโลกด้านวัฒนธรรม 

นำท่านเข้าชม ปราสาทแห่งกรุงปราก (Prague Castle) ปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็กสร้างขึ้นในปี ค.ศ.885 โดยเจ้าชายบริโวจ ปราสาทอัศวินโบราณที่สร้างขึ้นในแบบศิลปะโกธิคที่สง่างามซึ่งในปัจจุบันใช้เป็นที่พำนักของประธานาธิบดีเช็ก นำท่านชมความใหญ่โตโอ่อ่าของตัวปราสาท

จากนั้นนำท่านเข้าชมโบสถ์เซนต์ไวตัส (Saint Vitus Cathedral) ที่เด่นเป็นสง่า เขตโกลเด้นเลน ซึ่งเคยใช้เป็นที่พำนักของช่างฝีมือในยุคสมัยก่อน โบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1344 ในศิลปะแบบโกธิค มีการก่อสร้างเรื่อยมาเป็นเวลาหลายร้อยปี จนมาเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1929 มีหน้าต่างกระจกสีที่งดงามเป็นรูปภาพของนักบุญและเรื่องราวเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา แล้วยังเป็นที่เก็บมงกุฎเพชรที่ทำขึ้นในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 กษัตริย์ผู้สร้างความเจริญสูงสุดจนทำให้กรุงปรากกลายเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโบฮีเมียและจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

จากนั้นนำท่านเดินสู่ สะพานชาร์ล (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่สัญลักษณ์ของเมือง สร้างด้วยหินขนาดใหญ่ ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองปรากสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ชื่อเดิมเรียกว่า “สะพานปราก” ต่อมาในปี 1870 ได้เปลี่ยนชื่อ ตามพระนามของพระเจ้าชาร์ล อยู่ย่านจตุรัสและตัวเมืองเก่า (Old Town Square) ที่คลาสสิกโดยเฉพาะอาคารศาลาเทศบาลกรุงปราก บนสะพานประดับด้วยรูปปั้นของนักบุญถึง 28 องค์ ชาวคริสต์เชื่อว่า หากเดินผ่านสะพานแห่งนี้ ต้องขอพรจากนักบุญจอห์นเพื่อความเป็นสิริมงคล 
กลางวันรับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่ายนำท่านเดินทางสู่เมืองเบอร์โน (Brno) (ระยะทาง 200 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศสาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) เป็นเมืองรองจากกรุงปราก(Prague) เมืองหลวงของประเทศ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ  มีประชากรประมาณ 405,337 คน เมืองเบอร์โน (Brno) ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก แต่ถ้าหากมองในมุมประวัติศาสตร์แล้วเมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 2011  เมืองเบอร์โน (Brno) เป็นเมืองหลวงของแค้วนเซ้าท์โมเรเวีย ( South Moravia )  และเป็นที่รู้จักในความโดดเด่นของอาคารสถาปัตยกรรมศิลปะที่งามสง่า นำท่านถ่ายรูปมหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์แอนด์ปอลล์ ตั้งอยู่บนเนินเขา Petrov ที่ มหาวิหารได้รับการบูรณะหลายครั้ง ระหว่างปี ค.ศ.1749 - 1746 และได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นสไตล์บาโร้ค แต่พอถึงศตวรรษที่ 19 - 20 มหาวิหารได้รับอิทธิพลของศิลปะแบบนีโอ-โกธิค แต่ถึงจะบูรณะปรับเปลี่ยนไปอย่างไร ความสวยงามสง่าและความขลังยังคงอยู่ตราบจนทุกวันนี้  นำท่านชมเมืองเก่าเบอร์โน ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 2011 นำท่านชมอาคารในเมืองเก่าย่านคนเดินเท้า มีเสน่ห์ในสไตล์สถาปัตยกรรมเก่าแก่ดั้งเดิมและถือเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ 
 
นำท่านแวะถ่ายรูปที่ย่านเมืองเก่า ชม จัตุรัสเสรีภาพ  (Liberty Square) หรือ นามิตี สโวโบเดย์ Namesti Svobody เป็นลานกลางเมืองใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดของเบอร์โน สร้างในศตวรรษที่13 ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม เป็นที่ตั้งของสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่งดงามด้วยศิลปะหลากหลายที่เกิดขึ้นในยุคกลางของยุโรป เช่น ปราก คอลัมน์ Plague Column เสาแกะสลักสไตล์บาโร้คสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1679 ยอดเสาประดับด้วยรูปปั้นของพระนางมาเรียน (พระแม่มารีอา) อาคารด้านหน้าตกแต่งสไตล์อัตลานเตส Atlantes เป็นรูปปั้นยักษ์แอตลาส(ยักษ์แบกโลก) กึ่ง เปลือยน่าเกลียด 4 ตนยืนพิงเสาของอาคาร แท่งนาฬิกาดาราศาสตร์สีดำศิลปะร่วมสมัยรูปทรงคล้ายกระสุน และลานน้ำพุ ทรงกระบอกต่ำร่วมสมัย และอาคารอื่น ๆ  ที่มีสถาปัตยกรรมเป็นแบบเรอเนซองส์และบาโร้ค

ได้เวลานำท่านสู่กรุงเวียนนา (Vienna) (ระยะทาง 136 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พักPannonia Tower Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 7เวียนนา - ช้อปปิ้งเอาท์เลต
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 

นำท่านเดินทางสู่ ปาร์นดอร์ฟ (Outlet Parndorf) (ระยะทาง 55 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) ตั้งอยู่ระหว่างเมืองหลวงของสองประเทศออสเตรียและสโลวาเกีย เป็นเอาท์เลทแห่งแรกที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ของ ประเทศออสเตรีย ที่มีร้านค้า มากกว่า 120 ร้านสินค้าแบรนด์ชื่อดังต่างๆจากทุกมุมโลก ให้เลือกมากมายอย่างจุใจ อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย  
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย
บ่าย นำท่านถ่ายรูปกับพระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) หนึ่งในพระราชวังฤดูหนาวที่สวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป และยังคงความคลาสสิกไว้ตั้งแต่ยุคสมัยศตวรรษที่ 13 ถูกใช้เป็นศูนย์กลางการปกครองของประเทศโดยราชวงศ์ฮับบวร์กมานานกว่าเจ็ดทศวรรษ บนพื้นที่อาณาเขตราชวังกว่า 240,000 ตารางเมตร 

นำท่านชมถนนสายสำคัญริงสตราสเซ่ (Vienna Ringstrasse) ใจกลางกรุงเวียนนา ซึ่งเรียงรายด้วยอาคารประวัติศาสตร์ อาทิ เช่น อาคารรัฐสภา โรงละครแห่งชาติ สถานที่จัดแสดงโอเปร่าถึงปีละ 300 รอบ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ รัฐสภา และมหาวิทยาลัยแห่งกรุงเวียนนา 1 ในสถานศึกษา ระดับอุดมศึกษาที่เปิดทำาการสอนโดยภาษาเยอรมันที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งย้อนหลังกลับไปเป็นระยะเวลากว่า 700 ปีมาแล้ว 

นำท่านชมสวนสาธารณะ Stadtpark ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์โยฮันซ์สเตร้าส์ (Johann Strauss) บิดาแห่งเวียนนาวอลทซ์ เป็นแหล่งพักผ่อนและเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ที่สวยงามภายในสวนนั้น เป็นที่ประทับของกษัตริย์ออสเตรียมาโดยตลอดก่อนที่จะเข้าสู่ยุคของสาธารณรัฐออสเตรีย  
17.00 น.นำท่านเดินทางสู่สนามบิน มีเวลาให้ท่านดำเนินการเรื่องทำคืนภาษี (TAX Refund)
20.15 น.ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ เที่ยวบินที่ OS25 (ใช้เวลาในการเดินทาง 10 ชั่วโมง)
วันที่ 8กรุงเทพฯ
12.20 น.เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)


อัตราค่าบริการราคา
ราคาต่อท่านสำหรับรอบการเดินทางที่ : 11 - 18 กรกฎาคม 2568 89,900 บาท
 TE269-002: ทัวร์ยุโรปตะวันออก คลาสสิคยุโรปตะวันออก (เยอรมนี - ออสเตรีย - เช็ก) 8 วัน 5 คืน (LH/OS)แสดง รายละเอียด
ราคาต่อท่านสำหรับรอบการเดินทางที่ : 22 - 29 กันยายน 2568 89,900 บาท
 TE269-003: ทัวร์ยุโรปตะวันออก คลาสสิคยุโรปตะวันออก (เยอรมนี - ออสเตรีย - เช็ก) 8 วัน 5 คืน (LH/OS)แสดง รายละเอียด
ราคาต่อท่านสำหรับรอบการเดินทางที่ : 09 - 16 ตุลาคม 2568 89,900 บาท
 TE269-004: ทัวร์ยุโรปตะวันออก คลาสสิคยุโรปตะวันออก (เยอรมนี - ออสเตรีย - เช็ก) 8 วัน 5 คืน (LH/OS)แสดง รายละเอียด
ราคาต่อท่านสำหรับรอบการเดินทางที่ : 21 - 28 ตุลาคม 2568 89,900 บาท
 TE269-005: ทัวร์ยุโรปตะวันออก คลาสสิคยุโรปตะวันออก (เยอรมนี - ออสเตรีย - เช็ก) 8 วัน 5 คืน (LH/OS)แสดง รายละเอียด
ราคาต่อท่านสำหรับรอบการเดินทางที่ : 25 ธันวาคม 2568 - 01 มกราคม 2569 95,900 บาท
 TE269-006: ทัวร์ยุโรปตะวันออก คลาสสิคยุโรปตะวันออก (เยอรมนี - ออสเตรีย - เช็ก) 8 วัน 5 คืน (LH/OS)แสดง รายละเอียด

เงื่อนไขในการจอง

​อัตราค่าบริการนี้รวม
  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน OS  (กระเป๋าเดินทาง 1 ใบ น้ำหนัก ไม่เกิน 23 กก./ท่าน)
  • ค่าภาษีสนามบิน,ค่าภาษีน้ำมัน,ค่าประกันภัยทางอากาศ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาทค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท   (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 80 ปี) ประกันครอบคลุมการติดเชื้อ Covid 19
  • ค่าภาษีในทุกประเทศ  (ประเทศตามระบุในโปรแกรมทัวร์)
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่) 
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่, ค่าวีซ่าเชงเก้น
  • เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง และทิปต่างๆ
​อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
  • ค่าเจ้าหน้าที่ยกกระเป๋า ท่านต้องดูแลกระเป๋าด้วยตัวท่านเองเพื่อป้องกันการสูญหาย
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์-แฟกซ์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
การจองทัวร์ (How to make your reservation)
  • งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 50,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปเดินทางแน่นอน
  • งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 45 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
กรณียกเลิก
  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นมัดจำตั๋วเครื่องบิน, วีซ่าและค่าดำเนินการ (ถ้ามี), ค่าโรงแรม, ค่าตั๋วรถไฟ โดยจะมีรายละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือน ก่อนการเดินทาง)
  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วันก่อนการเดินทาง หักค่าทัวร์ 50% + ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 0-14 วันก่อนการเดินทาง ยึดค่าทัวร์ 100%
  • ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100% 

***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิก   วีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***

กรณีเดินทางโดยลูกค้าจัดการตั๋วเครื่องบินเอง (Land Only)
  • *ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม
หมายเหตุ
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง 
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน  การนัดหยุดงาน  การประท้วง  ภัยธรรมชาติ  การก่อจลาจล  อุบัติเหตุ  ปัญหาการจราจร ปัญหาการเสริฟ์ช้าของร้านอาหาร หรือ เหตุใดๆที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ฯลฯ   ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด และหากหัวหน้าทัวร์ไม่ได้ดำเนินการทำทัวร์ตามโปรแกรม ท่านต้องแย้งและเรียกร้องสิทธิ์ในรายการนั้น หากท่านไม่มีการแย้งใดๆ ถือว่าท่านยอมรับการทำทัวร์ดังกล่าว
  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ  ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฏิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว  หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง 
  •  ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ  บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
ตั๋วเครื่องบิน (Air Ticket)​
  • การจัดที่นั่งบนเครื่องบินของสายบการบิน ขณะนี้สายการบินมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดที่นั่ง (Assign seat) ทุกที่นั่ง สนนราคา 2,000 – 4,000 บาทต่อเที่ยวบิน หากท่านไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ ต้องทำการขอที่นั่ง ณ เคาน์เตอร์เชคอินที่สนามบินเท่านั้น แต่หากท่านต้องการจัดที่นั่งและชำระค่าใช้จ่ายตรงนี้ สามารถแจ้งกับทางบริษัทฯ หลังทำการออกตั๋วเครื่องบินแบบหมู่คณะไปแล้วเท่านั้น
  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  • ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
โรงแรมและห้องพัก (Hotel Accommodation)
  • ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง(TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
  • โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
  • ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
  •  กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  • วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
  • หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด
สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ
  • สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฏิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
  • ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  • กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)
การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย
  • ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
  • กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย 
  • กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
เอกสารประกอบการขอวีซ่าเชงเก้น (ใช้เวลาในการขอวีซ่าประมาณ 10 -15 วันทำการ)
สถานทูตไม่อนุญาตให้ดึงเล่มพาสปอร์ต หากได้ยื่นเข้าไปแล้ว ดังนั้นถ้าท่านรู้ว่าต้องใช้เล่มกรุณาแจ้งบริษัททัวร์ฯ เพื่อขอยื่นวีซ่าล่วงหน้าก่อนกรุ๊ป และให้แนบตั๋วเครื่องบินในช่วงที่ท่านจะเดินทางมาด้วย

(การเตรียมเอกสาร กรุณาอ่านให้เข้าใจ และเตรียมให้ครบ)
1. หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือนขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น
2. รูปถ่ายสีหน้าตรง ขนาด 3.5 ซ.ม. x 4.5 ซ.ม. จำนวน 2 รูป พื้นฉากหลังรูปต้องเป็นพื้นสีขาว (อย่าถ่ายเอง เพราะพื้นเป็นสีเทา ใช้ไม่ได้) ห้ามสวมแว่นสายตา (รูปถ่ายต้องถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน...สถานฑูตมีการเทียบรูปกับหน้าวีซ่าที่เคยได้) 
3. สำเนาบัตรประชาชน 
4. สำเนาทะเบียนบ้าน (กรุณาถ่ายหน้าแรกที่มีรายละเอียดบ้านเลขที่มาด้วย)
5. สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้หญิง.....หากมีการเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น ...นาง... ต้องแนบมา)
6. สำเนาทะเบียนหย่า (กรณีผู้หญิง.....ถ้าหย่าและหากมีการใช้คำนำหน้าเป็น ....นาง...ต้องแนบมา)
7. สูติบัตร (กรณีเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ต้องแนบสูติบัตรมา) 
8. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: (หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อม พ่อและแม่) ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ 
- เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
- เด็ก เดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา) 
- เด็ก เดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา)  
9. หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน) ทำเป็นภาษาอังกฤษ
จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูตและประเทศ)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
- กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง เงินเดือน 
- กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน 
- กรณีเกษียณอายุราชการ: ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
- กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา 

10. หลักฐานการเงิน :  (กรุณาเตรียมให้ถูกต้อง ใช้ทั้ง Bank Statement และ สำเนาบัญชี เล่มเดียวกัน)
- หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank Statement) ของบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า

- สำเนาสมุดบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน นับขึ้นไปจากเดือนที่จะยื่นวีซ่า มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน และยอดแสดงในบัญชีต้องไม่ก้าวข้ามเดือน (ปรับสมุดและสำเนา 15 วันก่อนยื่นวีซ่า) ให้ธนาคารประทับตรารับรองสำเนาทุกหน้า

************* ข้อ 1 และ ข้อ 2 ต้องเป็นสมุดบัญชีออมทรัพย์เล่มเดียวกันเท่านั้น **************

หมายเหตุ : หากสมุดบัญชีแสดงยอดรวมที่มีการกระโดดข้ามเดือน (ยอดไม่ต่อเนื่อง) เช่นจากเดือน 1 ข้ามไปเป็นยอดของ เดือน 3 (เดือน 2 ไม่มี) ท่านต้องไปขอ Bank statement จากทางธนาคารแทนการถ่ายสำเนาสมุดบัญชี
- บัญชีฝากประจำ (Fixed) สามารถแนบประกอบได้ แต่ท่านต้องแนบบัญชีออมทรัพย์ (Saving) มาด้วย
หากต้องการใช้บัญชีฝากประจำ ต้องเตรียมดังนี้
- หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee) ของบัญชีฝากประจำ (Fixed account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 20 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
- สำเนาสมุดบัญชีฝากประจำ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน 
หมายเหตุ หากต้องการรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) ต้องระบุชื่อเจ้าของบัญชี รับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร (ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย) 
- กรุณาแนบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส หรือหลักฐาน เพื่อแสดงสถานะ และความสัมพันธ์ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
กรณีนายจ้างรับรองค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง
- จดหมายรับรองจากนายจ้างระบุว่าเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
- หนังสือรับรองเงินฝาก ดังข้อ 11.1 และ 11.2 
 
 (สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ไม่ต้องแนบมา)

ค้นหา
คำค้น
ช่วงเวลา
รายการทัวร์
ค้นหา


 

Add line Triple Enjoy