รายละเอียดทัวร์

www.TripleEnjoy.com
by Double Enjoy Travel Co., Ltd.

300/50 Nawamin Road, Nawamin, Buengkum, BKK 10240
Tel: 02-379-2955  Hotline: 099-130-6886  Fax: 02-379-1163 (Auto)

 Website: www.tripleenjoy.com   E-mail: [email protected]


 

Juristic Identification No. 0125554005216                                                               TAT License No. 11/05307


ทัวร์อเมริกาใต้

TE279 : โปรแกรมทัวร์แกรนด์ชิลี และเกาะอีสเตอร์ 10 วัน 6 คืน (AF)


Air France (AF)
พิมพ์ พิมพ์ คัดลอก URL คัดลอก URL
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
Lago Grey Hotel
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
Plaza San Francisco Hotel
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
Puta Arenas Hotel
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
Taha Tai Hotel
TE279 : โปรแกรมทัวร์แกรนด์ชิลี และเกาะอีสเตอร์ 10 วัน 6 คืน (AF)
 

 
รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพมหานคร 
09.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เชคอินสายการบินแอร์ฟร้านซ์ แถว P 1-15 ประตูทางเข้าที่ 7-8 อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ณ สนามบินสุวรรณภูมิ 
11.30 น. ออกเดินทางสู่ มหานครปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดย สายการบินแอร์ฟร้านซ์ เที่ยวบิน AF165 (ใช้เวลาบินประมาณ 12.20 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง สายการบินฯ มีบริการ อาหารกลางวัน และอาหารค่ำ บนเครื่องบิน
18.35 น. เดินทางถึง สนามบินชาลส์เดอโกว์ (CDG) นครปารีส ประเทศฝรั่งเศส แวะเปลี่ยนเครื่องเป็นเที่ยวบิน AF406 อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี และ ผ่อนคลายอิริยาบถ ภายในสนามบินชาลส์เดอโกว์ (CDG) 
23.40 น.ออกเดินทางจาก สนามบินชาลส์เดอโกว์ (CDG) สู่ สนามบินซานเตียโก (SCL) ประเทศชิลี สัมผัสประสบการณ์บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล (ใช้เวลาบินประมาณ 14.30 ชั่วโมง) สายการบินมีบริการอาหารค่ำ และ อาหารเช้าบนเครื่องบิน

********* บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล *******
วันที่ 2ซานเตียโก (ชิลี) - ซิตี้ทัวร์ - พระราชวังโมนิดา
10.10 น.  เดินทางถึง สนามบินซานเตียโก (SCL) ประเทศชิลี นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

นำท่านเที่ยวชม ความยิ่งใหญ่ของ เมืองซานเตียโก (Santiago) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศชิลี ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 520 เมตร (1,700 ฟุต) ในหุบเขาตอนกลางของประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นซานเตียโกเมโทรโพลิแทน กว่าสามศตวรรษที่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องได้เปลี่ยนให้ซานเตียโกเป็นเขตนครหลวงที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในละตินอเมริกา พร้อมๆ กับการพัฒนาเขตชานเมืองอย่างกว้างขวาง ศูนย์การค้าหลายสิบแห่ง และสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจ รวมทั้งมีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของละตินอเมริกา เช่น ซานเตียโกเมโทร (Santiago Metro) และระบบใหม่ "โกสตาเนรานอร์เต”  (Costanera Norte)" เป็นระบบขนส่งของย่านกลางกรุง เชื่อมระหว่างด้านตะวันออกสุดไปด้านตะวันตกสุดของเขตเมืองภายในเวลา 15 นาที 
 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (ลิ้มลองเมนู ปูยักษ์อล้าสก้า)
บ่าย นำท่านชม ย่าน เบอร์นาโด โอ ฮิกกิ้น อเวนิว (Bernardo O Higgins Avenue) หรือที่ชาวชิลีรู้จักในนาม La Alameda หมายถึงถนนที่เต็มไปด้วยต้นปอปล่า นับเป็นถนนสายหลักของเมืองซานเตียโก และเป็นย่านเมืองเก่าที่ยังคงความคลาสสิค นำท่านแวะถ่ายรูปกับศาลาว่าการเมือง (Santiago city hall) จากนั้นนำท่านสู่ย่านจตุรัสพลาซ่า เดอะ อาร์ม (Plaza De Arm) อันเป็นจตุรัสที่ตั้งของสถานปัตยกรรมโบราณต่างๆมากมาย

นำท่านเข้าชม มหาวิหารแห่งซานเตียโก (Cathedral of Santiago) เป็นมหาวิหารที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอคลาสสิคสร้างตั้งแต่ปี 1748 แล้วเสร็จในปี 1800 นำท่านเข้าชมความงดงามภายในมหาวิหารแห่งนี้

นำท่านเข้าชม บริเวณด้านหน้าของพระราชวังโมนิดา (La Moneda Palace) ซึ่งปัจจุบันคือ ทำเนียบประธานาธิบดีของประเทศชิลี และใช้เป็นสถานที่ราชการของกระทรวงต่างๆของประเทศชิลี นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมและถ่ายรูปบริเวณลานด้านหน้า พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดย โจแอนควิน โทเอากา สถาปนิกชาวอิตาเลี่ยน สร้างขึ้นในปี 1784-1805 ในแบบสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิค และมีเสาโรมันขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านเป็นซุ้มประตู ความสวยงามและเก่าแก่ของพระราชวังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้ อีกด้วย ได้เวลานำท่านเชคอินโรงแรมที่พัก เพื่อให้ท่านได้พักผ่อนอิริยาบถก่อนอาหารค่ำ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พัก Plaza San Francisco Hotel **** หรือเทียบเท่า 
วันที่ 3เกาะอีสเตอร์ - รูปปั้นปริศนาโมอาย (พักค้าง 2 คืน)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
07.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินซานเตียโก เพื่อเชคอิน
09.25 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินซานเตียโก โดยเที่ยวบิน LA 841 (ใช้เวลาบินประมาณ 5.35 ช.ม.)
13.00 น. เดินทางถึง สนามบิน อีสลา เดอ ปาชัวร์ บนเกาะอีสเตอร์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันในโรงแรม
บ่าย นำท่านชม เกาะอีสเตอร์ เป็นเกาะขนาดเล็กที่ถือว่าตั้งอยู่โดดเดี่ยวแห่งหนึ่งของโลก โดยเกาะนั้นมีพื้นที่เพียง 160 ตารางกิโลเมตร มีความยาว 25 กิโลเมตร แต่ถึงแม้ว่าเกาะจะมีขนาดเล็ก แต่ประวัติศาสตร์ของเกาะอีสเตอร์นั้นยิ่งใหญ่เกินขนาดของเกาะเป็นหลายเท่าตัวเลยโดยสิ่งก่อสร้างที่ถือว่าเป็นตัวแทนของประวัติศาสตร์ของเกาะแห่งนี้ คือ รูปสลักหินขนาดยักษ์ หรือที่รู้จักในนาม “โมอาย” (Moai)  แม้ว่าจะไม่มีใครรู้ที่มาของชาวพื้นเมืองบนเกาะ แต่ชาวพื้นเมืองก็ได้สร้างรูปสลักยักษ์ขึ้น ซึ่งสร้างจากหินและกากแร่ภูเขาไฟหรือหินบะซอลต์ซึ่งรูปสลักในยุกแรกจะเป็นรูปสลักคนนั่งคุกเข่าในช่วงประมาณ ค.ศ. 380 ในยุคถัดมาเริ่มต้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1100 จะสลักเป็นรูปที่เรียกว่า โมอาย (Moai) ซึ่งเป็นที่โดดเด่นทั่วไปบนเกาะ โมอาย เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด โมอายถูกพบมากกว่า 600 ตัว กระจายอยู่ทั่วเกาะอีสเตอร์ในอุทยานแห่งชาติลาปานุย ประเทศชิลี โมอายเกือบทั้งหมดที่พบนั้นถูกแกะสลักมาจากหินก้อนเดียว แต่ก็มีบางตัวซึ่งมี Pukau ลักษณะคล้ายหมวกเป็นชิ้นต่างหากอยู่บนศีรษะ โมอายเกือบทั้งหมดถูกแกะสลักมาจากเหมืองหินที่ราโน ราราคู (Rano Raraku) ซึ่งเป็นที่ที่พบโมอายอยู่กว่า 400 ตัว อยู่ในกระบวนการแกะสลักซึ่งใกล้เสร็จสมบูรณ์

นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติลาปานุย ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ในปี 1995  เพื่อถ่ายรูปกับโมอาย สัญลักษณ์แห่งเกาะอีสเตอร์

นำท่าน ถ่ายรูปกับ โมอาย 7 ตัว หรือที่รู้จักกันในนาม อาฮู อากิวี (Ahu Akivi) สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ โฮตู มาตูอา (King Hotu Matua)

จากนั้นนำท่านสู่ บริเวณที่เชื่อว่าเป็นที่ ทำหมวกของโมอาย หรือที่รู้จักในนาม ปูนาเปา (Puna Pau Quarry) ซึ่งเป็นอีกชิ้นส่วนที่สำคัญของโมอายที่สร้างเหมือนมีหมวกบนหัว 
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก Taha Tai Hotel *** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 1)
วันที่ 4เกาะอีสเตอร์ - ราโน ราราคู
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ ตอนใต้ของเกาะอีสเตอร์ เพื่อไปชมความมหัศจรรย์ของ ทุ่งโมอาย ณ เหมืองหิน ราโน ราราคู (Rano Raraku) ซึ่งเป็นที่ที่พบโมอายอยู่กว่า 400 ตัว อยู่ในกระบวนการแกะสลักซึ่งใกล้เสร็จสมบูรณ์ จากการค้นพบรูปปั้นที่ยังแกะสลักอยู่ครึ่งๆกลางๆนั้น ทำให้มีการสันนิษฐานว่าเหมืองหินได้ถูกทิ้งร้างไปอย่างกะทันหัน นอกจากนั้นในการค้นพบโมอายเกือบทั้งหมดอยู่ในสภาพล้มนอน เชื่อว่าชาวพื้นเมืองบนเกาะเป็นผู้ทำให้มันล้ม ลักษณะที่เด่นชัดของโมอาย คือส่วนหัว แต่ก็มีโมอายหลายตัวซึ่งมีส่วนหัวไหล่ แขน และลำตัว ซึ่งเป็นโมอายที่พบหลังจากถูกฝังมานานนับปี ความหมายและวัตถุประสงค์ของการสร้างโมอายนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดและมีการสันนิษฐานกันไปต่างๆนานา ข้อสันนิษฐานที่แพร่หลายมากคือโมอายถูกแกะสลักโดยชาวโพลิเนเชียน (Polynesian) ซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะนี้เมื่อกว่า 1,000 ปีมาแล้ว ข้อสันนิษฐานเชื่อว่าพวกโพลิเนเชียนอาจสร้างโมอายขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนถึงบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ หรืออาจจะเป็นผู้ซึ่งมีความสำคัญ ณ สมัยนั้นหรืออาจจะเป็นสัญลักษณ์แสดงสถานะของครอบครัว

อิสระให้ท่านเก็บภาพความน่าอัศจรรย์ของทุ่งโมอายนับร้อยตัว
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันแบบกล่อง (Lunch box)
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ ปากปล่องภูเขาไฟ ที่ใหญ่ที่สุดแห่งเกาะอีสเตอร์

จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ โมอาย อาฮูตองการิกิ (Ahu Tongariki) ซึ่งเป็นโมอายที่โดดเด่นที่สุดบนเกาะอีสเตอร์

จากนั้นนำท่านชม โมอาย Ahus Nau Nau และ โมอาย Ature Huke และชมโมอาย Pukau ลักษณะคล้ายหมวกเป็นชิ้นต่างหากอยู่บนศีรษะ ซึ่งแตกต่างจากโมอายโดยทั่วไปที่นิยมแกะสลักจากหินก้อนเดียว

 ได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่โรงแรมที่พัก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรมที่พัก
ที่พัก Taha Tai Hotel *** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2)
วันที่ 5เกาะอีสเตอร์ - ซานเตียโก
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเที่ยวชมและเก็บภาพความสวยงามของ ปากปล่องภูเขาไฟราโนเกา (Rano KAu Volcano) จากนั้นนำท่านสู่จุดชมวิวที่ทำให้สามารถเห็นปากปล่องภูเขาไฟได้อย่างชัดเจน

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านโอรองโก (Orongo Ceremonial Village) หมู่บ้านที่ใช้จัดพิธีการเลือกหัวหน้าเผ่า ผู้ครองเกาะ โดยการที่ชายหนุ่มที่มีความแข็งแกร่งกระโดดลงหน้าผา และ ว่ายน้ำข้ามไปยังเกาะนก เพื่อไปนำไข่นกแล้วว่ายน้ำกลับมายังเกาะอีสเตอร์ เป็นพิธีการเลือกผู้นำของชาวลาปานุยมาช้านาน อิสระให้ท่านได้เก็บภาพและชมทัศนียภาพอันสวยงามของเกาะนก และเกาะอีสเตอร์ ตลอดจนบ้านพักอาศัยของชาวเมืองในสมัยก่อน
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวันในโรงแรม
13.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบิน อีสลา เดอ ปาชัวร์ บนเกาะอีสเตอร์
15.00 น. ออกเดินทางสู่ เมืองซานเตียโก ประเทศชิลี โดยเที่ยวบิน LA842
21.45 น. เดินทางถึง สนามบินซานเตียโก นำท่านเข้าสู่ โรงแรมที่พัก
ที่พัก Plaza San Francisco Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 6ซานเตียโก - เปอร์โตนาตาเลส - อุทยานแห่งชาติมรดกโลก ทอเรส เดล ไพเน่
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
08.30 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินซานเตียโก
11.00 น. ออกเดินทางจาก สนามบินซานเตียโก สู่ สนามบินเปอร์โตนาตาเลส โดยเที่ยวบิน LA…..
14.10 น. เดินทางถึง สนามบินเปอร์โตนาตาเลส 
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติมรดกโลก ทอเรส เดล ไพเน่ (Torres del Paine National Park)  อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของภูมิภาคมากายาเนสและลาอันตาร์ตีกาชีเลนา (Magallanes and Antartica Chilena Region) โดยอุทยานแห่งนี้อยู่ห่างจากเมืองปอร์โต นาตาเลส (Puerto Natales) ไปทางตอนเหนือประมาณ 112 กิโลเมตร (70 ไมล์) และอยู่ห่างจากเมืองปุนตาอาเรนัส (Punta Arenas) ประมาณ 312 กิโลเมตร (194 ไมล์) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ Patagonia Cordillera del Paine อุทยานแห่งชาติมีพื้นที่ครอบคลุม ภูเขา ธารนํ้าแข็ง ทะเลสาบ แม่นํ้า รวมไปถึงพื้นที่ป่าอันอุดมสมบูรณ์ของชิเลียนปาตาโกเนีย (Chilean Patagonia) ภูมิทัศน์ของอุทยานแห่งนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ เทือกเขากอร์ดิเยร่า (Cordillera del Paine) หินแกรนิตที่เวลาสะท้อนแสงแดด สีสวยจับใจ เป็นศูนย์กลางของอุทยานและมีเขตติดต่อกับ Bernardo O'Higgins National Park และ Los Glaciares National Park ของอาร์เจนติน่า และเป็นหนึ่งในเทือกเขาที่ท้าทายสำหรับนักปีนเขา นอกจากนี้ยังมีธารนํ้าแข็งเกรย์ Grey Glacier ที่ไหลลงสู่ทะเลสาบชื่อเดียวกัน อุทยานแห่งนี้ได้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1959 และองค์การยูเนสโก้ (UNESCO) ได้ประกาศให้ เป็นมรดกโลก World Biosphere Reserve ในปีค.ศ. 1978  อุทยานตั้งอยู่ปลายสุดทางทิศใต้ของทุ่งนํ้าแข็งใต้ ภูมิทัศน์ประกอบไปด้วยธารนํ้าแข็งหลายแห่ง ทะเลสาบ ลากูน และมีแม่นํ้าสามสายไหลเข้าสู่เขตอุทยาน ได้แก่ แม่นํ้าปิงโก (Pingo) แม่นํ้าไพเน่ (Paine) และแม่นํ้าดิกสัน (Dickson) ที่มีเฉดสีของนํ้าแตกต่างกันตั้งแต่ นํ้าเงินไปจนถึงเขียว และยังก่อให้เกิดนํ้าตกสำคัญสามแห่งคือ นํ้าตกไพเน่ (Paine) นํ้าตกซัลโต้ กรานเด้ (Salto Grande) และนํ้าตกซัลโต้ ชิกโก้ (Salto Chico) 
 
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พัก Lago Grey Hotel**** หรือเทียบเท่า
วันที่ 7อุทยานแห่งชาติมรดกโลก ทอเรส เดล ไพเน่ - ปุนตาอาเรนัส
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านชม ทิวทัศน์และบันทึกภาพความอัศจรรย์ทางธรรมชาติ ตั้งแต่ธารนํ้าแข็ง ทะเลสาบและลากูน ตลอดจนธารนํ้าตลอดทางโดยมีจุดหมายสำคัญของการเดินทางชมความงามของอุทยานแห่งนี้คือ มิราดอร์ ลาส ตอร์เรส (Mirador Las Torres) จุดชมเสาหินแกรนิตยักษ์สัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติ ทอเรส เดลไพเน่ ซึ่งมีความหมายว่า เสาหินของไพเน่ ตามชื่อเสาหินสามเสานี้เอง เสาหินแกรนิตแห่งนี้ถูกธารนํ้าแข็งแกะสลักไว้กว่า 12 ล้านปีที่แล้ว ยอดหอคอยเสาหินที่สูงที่สุดคือ ไพเน่ กรานเด้ (Paine Grande) สูง 3,050 เมตร (10,000 ฟุต) แต่ยอดหอคอยเสาหินที่มีชื่อเสียงที่สุดและเป็นที่นิยมบันทึกภาพมากที่สุดคือ คัวนอส เดล ไพเน่ (Cuernos del Paine หรือที่รู้จักในนาม แตรไพเน่ Paine Horns) ได้เวลานำท่านกลับสู่โรงแรมที่พัก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองปุนตาอาเรนัส (Punta Arenas) เมืองหลวงแคว้นมากายาเนสและลาอันตาร์ตีกาชีเลนา แคว้นใต้สุดของชิลี เป็นเมืองใหญ่ที่สุดทางซีกโลกใต้บนเส้นรุ้งที่ 46 เดิมได้เปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการเป็น มากายาเนส ในปี ค.ศ. 1927 แต่เปลี่ยนกลับมาใช้ ปุนตาอาเรนัส เหมือนเดิมในปี ค.ศ. 1938 และตั้งแต่ปี ค.ศ. 1977 เป็นหนึ่งในสองเมืองของชิลีที่เป็นเมืองท่าปลอดภาษี เมืองตั้งอยู่ข้างช่องแคบแมกเกนแลน มีความสำคัญด้านภูมิศาสตร์ของเมืองทำให้เมืองมีความสำคัญด้านการทหารในคาบสมุทรแอนตาร์กติก ในศตวรรษที่ 20 และ 21

นำท่านชม เมืองปุนตาอาเรนัส (Puta Arenas) เมืองซึ่งได้รับอิทธิพลและสถาปัตยกรรมในแบบสเปน

 นำท่านชม จตุรัสพลาซ่า เดออาร์ม (Plaza de Arm) ซึ่งเป็นจตุรัสใจกลางเมือง อันเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ Fernando de Magellan ซึ่งชาวเมืองให้การนับถือเป็นอย่างมาก และมีเรื่องเล่าว่า หากได้จุมพิศที่นิ้วเท้าของรูปปั้นนี้ ท่านจะมีโอกาสได้กลับมาเยือนเมืองนี้อีกครั้ง อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความน่าประทับใจ 
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พัก Puta Arenas Hotel **** หรือเทียบเท่า 
วันที่ 8ปุนตาอาเรนัส - ซานเตียโก 
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
07.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินปุนตาอาเรนัสเพื่อเชคอิน
09.33 น. ออกเดินทางจากสนามบินปุนตาอาเรนัส สู่ สนามบินซานเตียโก โดยเที่ยวบิน LA… (ใช้เวลาเดินทาง 3.30 ชม.) 
14.18 น. เดินทางถึง สนามบินซานเตียโก นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก

นำท่านเชคอิน สายการบินสายการบิน แอร์ฟร้านซ์
16.45 น. ออกเดินทางจาก สนามบินซานเตียโก (SCL) สู่ สนามบินชาลส์เดอโกว์ (CDG) โดย สายการบิน แอร์ฟร้านซ์ (AF) เที่ยวบินที่ AF 401 (ใช้เวลาบินประมาณ 13.45 ชั่วโมง)
วันที่ 9ปารีส - กรุงเทพมหานคร
********* บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล *******

สายการบินมีบริการอาหารเช้า และ อาหารกลางวันบนเครื่องบิน
 
10.45 น. เดินทางถึง สนามบินชาลส์เดอโกว์ (CDG) ประเทศฝรั่งเศส เพื่อแวะเปลี่ยนเที่ยวบิน
16.05 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบิน แอร์ฟร้านซ์ (AF) เที่ยวบินที่ AF166 (ใช้เวลาบินประมาณ 11 ชั่วโมง) สายการบินมีบริการอาหารค่ำ และ อาหารเช้าบนเครื่องบิน
 
วันที่ 10กรุงเทพมหานคร
09.15 น.  เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ....



ดาวน์โหลดใบจอง
   
            ดาวน์โหลดใบจอง (Word)       ดาวน์โหลดใบจอง (PDF)

เงื่อนไขในการจอง

ข้อแนะนำและแจ้งเพื่อทราบ
  • สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้ท่าน เปิดห้องพัก เป็น 2 ห้องจะสะดวกกับท่านมากกว่า
  • กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  • กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 23 ก.ก. 
  • กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Hand carry) น้ำหนักไม่เกิน 8 ก.ก. 
อัตราค่าบริการนี้รวม
  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน AF  (กระเป๋าเดินทาง 1 ใบ น้ำหนัก ไม่เกิน 23 กก./ท่าน)
  • ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ 
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท
  • ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท   (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)
  • ค่าภาษีในทุกประเทศ  (ประเทศตามระบุในโปรแกรมทัวร์)
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่
  • เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าทิปพนักงานขับรถ, ไกด์ท้องถิ่น, ไกด์ไทย
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์-แฟกซ์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
การชำระเงิน
  • งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 100,000 บาท/ท่าน 
  • งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 45 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง 
กรณียกเลิก
  • ยกเลิก 120 วัน ล่วงหน้าก่อนเดินทาง (ไม่มีค่าใช้จ่าย) 
  • ยกเลิก 90-119 วัน ล่วงหน้าก่อนเดินทาง หักค่ามัดจำ 50%
  • ยกเลิก 30-89 วัน ล่วงหน้าก่อนเดินทาง หักค่ามัดจำเต็มจำนวน
  • ยกเลิก 08-29 วัน ล่วงหน้าก่อนเดินทาง หักค่าใช้จ่ายเต็มจำนวน
  • ยกเลิก น้อยกว่า 7 วัน ล่วงหน้าก่อนเดินทาง หักค่าใช้จ่ายเต็มจำนวน

    ***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิก   วีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***
หมายเหตุ :
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน  การนัดหยุดงาน  การประท้วง  ภัยธรรมชาติ  การก่อจราจล  อุบัติเหตุ  ปัญหาการจราจร ฯลฯ   ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ  ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฎิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฎิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว  หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง 
  • ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ  บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู

กรณีเดินทางโดยลูกค้าจัดการตั๋วเครื่องบินเอง (Land Only)
  • ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะ ใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม
 
ตั๋วเครื่องบิน
  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  • ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
โรงแรมและห้อง
  • ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง ( TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
  • โรงแรมหลายแห่งในอเมริกา-แคนาดา จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
  • ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
  • กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  • วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
  • หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด
สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ
  • สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฎิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
  • ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตราฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  • กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)
การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย
  • ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
  • กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯจะพิจารณาชดเชยค่าเสียหายให้ท่าน โดยชดใช้ตามกฎของสายการบินเท่านั้น นั่นหมายถึงจะชดเชยตามน้ำหนักกระเป๋า คูณ ด้วยค่าชดเชย USD 20 ต่อกิโลกรัมเท่านั้น ดังนั้นท่านจึงไม่ควรโหลดของมีค่าทุกประเภทในกระเป๋าใบใหญ่ เพราะหากเกิดการสูญหาย ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การชดเชยค่าเสียหายตามรายระเอียดข้างต้นเท่านั้น
  • กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
เอกสารที่ใช้ยื่นวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย

ใช้เวลาประมาณ 10 วันทำการ และ ต้องโชว์ตัวเนื่องจากต้องสแกนลายนิ้วมือ
เอกสารที่ต้องเตรียม ก่อนยื่นวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย มีดังนี้

1. แบบฟอร์มขอยื่นวีซ่า พร้อมลายเซ็นผู้ยื่นขอวีซ่า 
(***สถานทูตออสเตรเลีย เคร่งครัดเรื่องลายเซ็นมาก จำเป็นต้องเซ็นให้ตรงกับหน้าหนังสือเดินทางเท่านั้น)
2. หนังสือเดินทาง (Passport) ซึ่งมีอายุมากกว่า 6 เดือน และ มีหน้าว่างสำหรับติดวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้าคู่
3. สำเนาหนังสือเดินทาง พร้อมหน้าที่แสดงรายละเอียดของผู้สมัครและหน้าที่แสดงประวัติการเดินทางทั้งหมด
4. รูปถ่ายสี 1 รูป เขียนชื่อผู้ขอยื่นวีซ่าเป็นภาษาอังกฤษไว้ด้านหลังรูป
5. สำเนาทะเบียนบ้าน
6. สำเนาบัตรประชาชน
7. สำเนาทะเบียนสมรส
8. สำเนาสูติบัตร หากอายุน้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 
** ถ้าเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีเดินทางโดยลำพัง หรือไม่ได้เดินทางพร้อมกับบิดาและมารดา จะต้องมีหนังสือแสดงความยินยอมจากบิดาและมารดาอนุญาตให้บุตรเดินทางได้**
9. หลักฐานซึ่งแสดงว่า ท่านมีทุนทรัพย์ส่วนตัวที่เพียงพอ หรือมีทุนทรัพย์เกื้อหนุนเพียงพอที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายของตัวท่าน และสมาชิกในครอบครัวที่จะเดินทางด้วยกับท่าน ที่ครอบคลุมระยะเวลาที่จะพำนักในประเทศออสเตรเลียเช่น หากแสดง สมุดบัญชี เงินฝากธนาคารท่านต้องแสดงสมุดตัวจริงพร้อมสำเนาที่มีรายการอย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง (สมุดเงินฝาก ตัวจริงจะส่งคืนให้ภายหลังพร้อมจดหมายแจ้งผลวีซ่า) 
10. ในกรณีที่มีผู้สนับสนุน/รับรองใบสมัครของท่านโปรดแสดงหลักฐานของความสัมพันธ์และสถานภาพทางการเงินของผู้นั้น รวมถึงหลักฐานการติดต่อระหว่างกัน เช่น จดหมายเชิญ อีเมล์ ค่าใช้จ่ายจากการติดต่อทางโทรศัพท์ รูปถ่าย และ หลักฐานการโอนเงินหากได้ให้การดูแลด้านการเงิน และหลักฐานแสดงสถานะภาพทางการเงินของสปอนเซอร์  
11. หลักฐานการประกอบอาชีพ ในกรณีที่ผู้สมัครประกอบอาชีพ ให้แสดงหลักฐานปัจจุบันเช่นจดหมายต้นฉบับจากนายจ้าง ระบุตำแหน่งหน้าที่การงาน เงินเดือนรายได้ และระยะเวลาที่อนุญาตให้ลาพัก / ผู้มีกิจการของตนเองโปรดแสดงหลักฐาน การเป็นเจ้าของกิจการ เช่นทะเบียนการค้า ทะเบียนหุ้น งบดุลประจำปี ที่แสดงให้เห็นว่ากิจการของท่านยังคงดำเนินอยู่ / กรณีเป็นนักเรียน นักศึกษา ให้ใช้จดหมายรับรองจากสถาบันการศึกษา 


ค้นหา
คำค้น
ช่วงเวลา
รายการทัวร์
ค้นหา


 

Add line Triple Enjoy