วันที่ 1 | ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ - กรุงแมดริด (สเปน) |
06.30 น. | พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน ** หมายเหตุ ทางบริษัทได้เตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ก่อน 15 วัน โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองที่พัก, ร้านอาหาร สถานที่เข้าชมต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าให้กับกรุ๊ปทัวร์ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การจลาจล, ภัยพิบัติ, การถูกปฏิเสธการเข้าเมือง ทำให้การเดินทางล่าช้า หรือเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายตามโปรแกรมได้ หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ชำระแล้ว เพราะทางบริษัทฯ ได้ชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกิดขึ้นนอกจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัท ฯ มิอาจรับผิดชอบได้ |
09.30 น. | ออกเดินทางสู่ สนามบินนครดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) โดยเที่ยวบินที่ EK 375 |
13.15 น | ถึงสนามบินนครดูไบ รอเปลี่ยนเที่ยวบิน |
14.40 น. | ออกเดินทางต่อสู่ กรุงแมดริด ประเทศสเปน โดยเที่ยวบินที่ EK 143 |
19.50 น. | คณะถึง สนามบิน Barajas International กรุงแมดริด หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร รถโค้ชรอรับคณะแล้วออกเดินทางสู่โรงแรมที่พัก |
ที่พัก | PUERTA AMERICA MADRID HOTEL **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 2 | เที่ยวแมดริด - พระราชวังหลวง - ปลาซา เดอ เอสปันญา - ปูเอต้า เดล ซอล - ปลาซา มายอร์ - ห้าง El Corte Ingles |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำคณะเที่ยวกรุงแมดริด เมืองหลวงของประเทศสเปนเก่าแก่นับพันปี ตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียน ในระดับความสูง 650 เมตร เป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เข้าชมพระราชวังหลวง (Palacio Real) ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่นๆในทวีปยุโรป จากแนวความ คิดเปรียบเทียบความใหญ่โตของแวร์ซายส์ และความสวยงามของลูฟว์ในฝรั่งเศส พระราชวังหลวงแห่งนี้ถูกสร้างด้วยหินทั้งหลังในปีค.ศ.1738 ในสไตล์บาร็อก โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆ มากมายถึง 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้นรวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆ อาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา, หนังสือ, เครื่องใช้, อาวุธ ฯลฯ แล้วชมอุทยานหลวงที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาล ดอกไม้งดงามตลอดปี ใกล้กันเป็นปลาซา เดอ เอสปันญา (Plaza de Espana) ชมอนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปน ที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฆเต้ในสวนสาธารณะ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย
| นำเที่ยวชม น้ำพุไซเบเลส (Cibeles Fountain) ที่สร้างอุทิศให้แก่เทพธิดาไซเบลีน ใช้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆ ของเมืองและอาคารสวยงามใกล้ๆ กันคือ ที่ทำการไปรษณีย์ ผ่านประตูชัยอาคาล่า (Puerta de Alcala) ที่สร้างถวายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 นำคณะเข้าสู่ ปลาซา มายอร์ (Plaza Mayor) จัตุรัสสำคัญของกรุงมาดริด อาคารเก่าแก่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมศตวรรษที่ 17 และอดีตที่ทำการเมือง ติดกันเป็นตลาดซันมีเกล (San Miquel) ปัจจุบันย่านนี้เป็นถนนคนเดิน เต็มไปด้วยร้านกาแฟน่ารัก เข้าสู่ ปูเอต้า เดล ซอล หรือประตูพระอาทิตย์ จัตุรัสใจกลางเมือง ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดนับกิโลเมตรแรกของสเปนแล้ว (กิโลเมตรที่ศูนย์) ยังเป็นศูนย์กลางรถไฟใต้ดินและรถเมล์ทุกสาย และยังเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญของเมืองที่หนาแน่นด้วยร้านค้ามากมาย และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ El Corte Ingles ชมอนุสาวรีย์หมีกับต้นมาโดรนา สัญลักษณ์ของเมือง จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเที่ยวย่าน Walking Street ตามอัธยาศัย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร the oldest restaurant in the world |
ที่พัก | SILKEN PUERTA AMERICA MADRID HOTEL **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | แมดริด - โตเลโด้ - มหาวิหารแห่งโตเลโด้ - อัลคาซาร์ - กอร์โดบ้า |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองโตเลโด้ อดีตเมืองหลวงเก่าตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสเปน ชื่อเมืองหมายถึงการผสมผสานของ 3 วัฒนธรรม คริสเตียน, อิสลามและฮีบรู ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูงเบื้องล่างล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำตาโฆเหมาะแก่การป้องกันการรุกรานจากข้าศึก เริ่มต้นการเที่ยวชมเมืองจาก หน้าสถานีรถไฟแบบนีโอมูเดฆาร์ ที่รูปทรงทางสถาปัตยกรรมที่แปลกตา ข้ามสะพานแบบโรมันดั้งเดิม (ปูเอนเต เด อัลกานตารา) บนเนินเขาท่านจะเห็นกันตีโย เด ซาน เซร์บานโด ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ชาวโรมันสร้างขึ้นเพื่อปกปักษ์รักษาเมือง แล้วเข้าสู่เขตเมืองเก่า โดยผ่าน ประตูเมืองปูเอร์ตา เด บิซากรา หนึ่งในประตูเมืองที่มีความสำคัญที่สุด ทุกทุกแห่งของเมืองท่านจะได้ชื่นชมกับความแตกต่างของสถาปัตยกรรมแบบอารบิค, มูเดฆาร์, โกธิคและเรอเนสซองส์ เมื่อท่านมาเยือนโตเลโด้แล้วต้องแวะชมคือ มหาวิหารแห่งโตเลโด้ สถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ใช้เวลาสร้างยาวนาน เดิมมุสลิมใช้เป็นสุเหร่าต่อมาได้ก่อสร้างรูปทรงแบบโกธิคในปี 1226 และเพิ่มศิลปะแบบมูเดฆาร์ บาร็อกและนีโอคลาสสิค จนเสร็จสมบูรณ์ในอีก 300 ปีถัดมา นับเป็นมรดกแสดงความเป็นเมืองศาสนาของสเปน ภายในมหาวิหารมีการตกแต่งอย่างงดงามวิจิตรด้วยไม้แกะสลักและภาพสลักหินอ่อน อีกด้านหนึ่งท่านจะเห็นป้อมอัลคาซาร์เป็นผลงานของสถาปนิกระดับสุดยอดในสมัยศตวรรษที่ 16 ได้รับการบูรณะและเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน ให้ทุกท่านหา ซื้อของที่ระลึก ในย่านกลางเมืองเป็นงานฝีมือที่รู้จักกันดีมีชื่อเสียงของนครโตเลโด้คือดาบและมีดเหล็กกล้า แบบเคลือบดำฝังเงินทองและลวดทองแดง นอกจากนี้ยังมีงานเซรามิคทุกประเภทให้ท่านได้สะสมเป็นของประดับบ้านอีกด้วย
|
13.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ก่อนอำลาเมืองแวะจุดชมวิว เพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองโตเลโด้ทั้งเมือง ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่จิตรกรชื่อดังของสเปนเอล เกรโก (EI Greco) ได้จำลองลงในแผ่นภาพที่งดงามยิ่งกว่าของจริง ออกเดินทางชม ทัศนียภาพของสเปนตอนใต้ใน แคว้นอันดาลูเซีย แคว้นแห่งเกษตร กรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อสเปนมาทุกยุคทุกสมัย สร้างผลผลิต อาทิ น้ำมันมะกอก พืชไร่ องุ่น ฝ้าย และดอกทานตะวัน เป็นเขตภูมิภาคที่อบอุ่นเนื่องจากอากาศดีตลอดปี เพราะอยู่ติดกับมหาสมุทรและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยมีเมืองกอร์โดบา ที่ได้ชื่อว่าเป็นเพชรเม็ดเอกแห่งแคว้นอันดาลูเซีย เมืองที่นักประวัติศาสตร์สากลมักคุ้นในนามอาณาจักรกาหลิบของชาวมุสลิม ว่ากันว่าในยุคศริสต์ศตวรรษที่ 10 เมืองนี้มีความยิ่งใหญ่มาก โดยถือเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของโลก รองจากอาณาจักรคอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองในระบบกาหลิบที่มีความเจริญรุ่งเรืองที่สุดของยุโรป มีการสร้างมหาวิทยาลัย เน้นการเรียนรู้ด้านวรรณกรรมและวิทยาศาสตร์ ปรัชญาและการแพทย์ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | BARCELO GRANADA CONGRESS **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | กอร์โดบ้า - เมซกิต้า - กรานาด้า |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านชม สถาปัตยกรรมสะพานแบบโรมัน (ปูเอนเต้ โรมาโน) ทอดตัวข้ามแม่น้ำกวาดัลกีบีร์ แล้วพาเข้าชมมัสยิดหลวงเมซกีต้า สุเหร่าที่มีขนาดใหญ่ของบรรดากาหลิบแห่งอูมัยยาด หากจะเปรียบเทียบความใหญ่โตคงจะไม่สร้างความประหลาดใจแต่ ณ ที่แห่งนี้คือบทสรุปของการปลูกฝังคริสต์ศาสนาลงบนอาณาเขตอันยิ่งใหญ่ของมุสลิมเดิม ซึ่งท่านจะได้เห็นศิลปะการสร้างโบสถ์ของชาวคริสต์อันยิ่งใหญ่ และศิลปะหลายแบบถูกบรรจงเติมแต่งให้สมบูรณ์ จึงเป็นสถาปัตยกรรมที่เปรียบเป็นความหฤหรรษ์อย่างลึกซึ้งแห่งงานศิลปะและความเจริญรุ่งเรืองทางศาสนา แต่ในขณะเดียวกันศิลปะแบบมุสลิมซึ่งก็คือ มีห์รับ ซึ่งถือเป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมชิ้นเอกบนกระเบื้องเซรามิคของศิลปินชาวมัวร์แท้ๆ ได้รับการอนุรักษ์เก็บรักษาให้ทรงคุณค่าความงาม จนแทบจะหาชมไม่ได้อีกแล้วบนโลกใบนี้ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ออกเดินทางสู่ เมืองกรานาด้า อดีตเมืองหลวงของพวกมัวร์ เมืองที่มีความเจริญสูงสุดทั้งทางวัตถุและศิลปะที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของพวกมัวร์และชาวยิว |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | BARCELO GRANADA CONGRESS **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | กรานาด้า - พระราชวังอะลัมบรา - เซบียา - ปลาซา เดอ เอสปันญา - ระบำฟลามิงโก้ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านสู่ พระราชวังอะลัมบรา สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ไม่มีอันดับอย่างเป็นทางการ ความสุดยอดแห่งจินตนาการและความสามารถทางศิลปะของมัวร์ ตั้งอยู่บริเวณสันเขาบนเนินเขียวขจี ไม่มีคำบรรยายใดจะเปรียบเปรยความวิจิตรพิสดารและความประณีตสมดุลอันน่าทึ่งนี้ได้ พระราชวังแห่งนี้มิได้ยิ่งใหญ่เฉพาะภายนอกแต่อลังการไปด้วยฝีมืออันประณีตจากช่างฝีมือในยุคก่อนที่ได้สร้างสรรค์การตกแต่งอย่างวิจิตร นำคณะเข้าชม พระราชวังหลวง (Nasrid Palace) โดดเด่นไปด้วยลวดลายแกะสลักบนเพดานไม้ ลายเครือเถาบนปูนปั้นที่ประดับผนัง ลายลดาวัลย์ และลายลูกไม้ฉลุบนเรียวโค้งของเสาหินอ่อน ด้านนอกเป็นสวนสวยราวกับจำลองสวนสวรรค์มาไว้บนดิน ลานดอกเมอร์เทิล ขนาบด้วยแนวพุ่มดอกเมอร์เทิล, ซาลอน เดโลส เอมบาฆาโดเรส ห้องสำหรับเข้าเฝ้ากษัตริย์และสุดปลายทางใต้เป็นลานสิงโตสร้างขึ้นรอบน้ำพุโบราณขนาดใหญ่ ห้องพักที่เคยต้อนรับนักเขียนชื่อดัง วอชิงตัน เออร์วิง ในปี 1829 ที่เคยพำนักในพระราชวังแห่งนี้นานถึง 3 เดือนและจุดสุดท้ายที่ไม่ควรพลาดชมก็คือพระราชวังเฆเนราลิเฟ เดิมเป็นพระราชวังฤดูร้อนของสุลต่าน ความงดงามของอุทยานสวนอันร่มรื่นและเขียวขจี ประดับด้วยน้ำพุและสระน้ำสมกับความหมายที่ว่าอุทยานสถาปนิก |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ออกเดินทางสู่ เมืองเซวิลล์หรือเซบียา เมืองใหญ่อันดับ 4 ของสเปนและเป็นเมืองหลวงของแคว้นอันดาลูเซีย เมืองที่เต็มไปด้วยความเขียวขจีพื้นที่โล่ง สวนสาธารณะ และสวนดอกไม้ เมืองในฝันสำหรับผู้ต้องการสัมผัสชีวิตราตรีอันเร่าร้อน นำท่านไปชมสิ่งก่อสร้างที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมการออกแบบของ ปลาซา เดอ เอสปาญา (Plaza de Espana) อาคารรูปครึ่งวงกลมเรียงต่อกันเป็นแนวยาว แต่ละโค้งประตูมีตราประจำจังหวัดไล่เรียงตามตัวอักษร ฝั่งตรงข้ามเป็นอุทยานมาเรียลุยซ่า ร่มรื่มงดงามตระการตาและแฝงความโรแมนติค |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง ** พร้อมชมและเพลิดเพลินกับดนตรีและระบำฟลามิงโก อันเร่าร้อนสไตล์อันดาลูเซีย |
ที่พัก | BARCELO SEVILLA RENACIMIENTO HOTEL **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | เซบีญา - มหาวิหารแห่งเซบียา - หอคอยฆีรัลด้า - ลิสบอน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านเข้าชม วิหารแห่งเมืองเซบียา (Seville) มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่กรุงโรม และเซนต์ปอลที่ลอนดอน และใหญ่ที่สุดในสเปน สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิค ภายในตกแต่งได้อย่างงามวิจิตร สร้างขึ้นแทนที่ตั้งของสุเหร่าเดิม โดยต้องการให้ยิ่งใหญ่แบบไม่มีใครเทียบเทียมได้ ในห้องเก็บทรัพย์สมบัติล้ำค่า มีทั้งภาพ เขียน, เครื่องใช้ในพิธีของศาสนา ที่ทำมาจากทองคำและเงิน ล้วนแต่ประเมินค่ามิได้ อีกทั้งยังเป็นที่เก็บศพของโคลัมบัสอีกด้วย จากนั้นขึ้นชม หอคอยฆีรัลดา ตึกทรงรูปสี่เหลี่ยม ผืนผ้าสูง 93 เมตร (ไม่แนะนำสำหรับท่านที่สุขภาพไม่เอื้ออำนวย) ติดกันกับมหาวิหารเป็นลานส้มและน้ำพุเพื่อใช้ในพิธีชำระร่างกายของอิสลาม ด้านหน้าเป็นลานกว้างมี ปราสาทอัลคาซาร์ สถาปัตยกรรมที่ยังคงมีคราบเงาความบรรเจิดและความคิดสร้าง สรรค์ของชาวมัวร์ ในอดีตเคยเป็นพระราชวังของกษัตริย์สเปนมาก่อน |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางข้ามพรมแดนสเปน สู่ประเทศโปรตุเกสที่เมืองฟารู (Faro) เป็นเมืองหลวงของเขตแอลการ์ฟ (Algarve) มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 40,000 คน เมืองนี้มีความสำคัญขึ้นมาในปีค.ศ. 1577 ฟารูได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองที่พำนักของผู้ดำรงตำแหน่งบิชอป เมืองฟารูครอบคลุมอาณาเขตอุทยาน และทะเลสาบ ริโอฟอร์โมซา (Rio Formosa) แหล่งอนุรักษ์ทางธรรมชาติของนกหลากหลายสายพันธุ์ ที่อพยพมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง จนเข้าสู่กรุงลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกสตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตอนใต้บนคาบสมุทรไอบีเรีย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | VIP GRAND LISBOA HOTEL & SPA **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | ลิสบอน - มหาวิหารเจอโรนิโม - หอคอยเบเล็ม - แวะร้านขนมชื่อดัง - แหลมโรก้า - ซินทร้า |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านเที่ยวชมกรุงลิสบอน ชมอดีตพระราชวังหลวงอายุเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโกธิคและมัวร์อย่างสวยงาม ปัจจุบันเป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี ชม มหาวิหารเจอโรนิโม ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ วาสโก ดากามา และการเดินทางสู่ อินเดียเป็นผลสำเร็จในปี ค.ศ.1498 จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่า มานูเอลไลน์ (Manueline) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 70 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าเป็น World Heritage Site ภายในประกอบไปด้วย อาคารสำคัญต่างๆ แล้วไปชม หอคอยเบเล็ม (Belem Tower) เดิมสร้างไว้กลางน้ำเพื่อเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเข้าออก และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจและค้นพบโลกของ วาสโก ดากามา และนักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของสถาปัตยกรรมมานูเอลไลน์ที่สวยงาม บันทึกภาพกับ อนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1960 เพื่อฉลองการครบ 500 ปีแห่งการสิ้นพระชนม์ของ เจ้าชายเฮนรี่ เดอะเนวิเกเตอร์ และยกย่องนักเดินเรือสำรวจรอบโลก เชิญท่านลองชิม ขนมทาร์ตคัสตาร์ด (Nata de Pasteis) ในร้านขนมเก่าแก่ที่ให้บริการมากว่าร้อยปี แวะชิมขนมโปรตุเกสต้นตำรับของขนมไทย อาทิ ทองหยอด, ฝอยทองที่มีต้นตำรับแท้อยู่ที่โปรตุเกสและเข้าไปเผยแพร่ในกรุงศรีอยุธยา โดยท่านท้าวทองกีบม้า |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ออกเดินทางเลาะเลียบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกผ่านเมืองเล็กๆ น่ารักแถบชานเมืองลิสบอน สู่ เมืองซินทรา (Sintra) อีกหนึ่งเมืองตากอากาศยอดนิยมของนักท่อง เที่ยว และยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังที่สวยงาม ที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย เป็นเมืองตากอากาศที่เต็มไปด้วยความสวยงาม ไม้ดอก และแนวต้นปาล์ม และคลาสสิคด้วยรีสอร์ท ตากอากาศสีพาสเทล แล้วนำท่านไปชม แหลมโรก้า (Capo Da Roca) จุดตะวันตกสุดของยุโรป ก่อนกลับเข้าเมือง อิสระให้ท่านได้เดินเล่นบนถนนคนเดิน จัตุรัสใจกลางเมือง ย่านช้อปปิ้งสินค้าของเมืองตามอัธยาศัย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | VIP GRAND LISBOA HOTEL & SPA **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 8 | บาร์เซโลนา - ยอดเขามอนต์จูอิก - ถนนลาลัมบรา - ช้อปปิ้งถนนกราเซีย |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน โดยเที่ยวบินภายในประเทศ VY8461
คณะเดินทางถึงเมืองบาร์เซโลนา เมืองซึ่งได้รับการขนานนามให้เป็นนครหลวงในเมดิเตอร์เรเนียน ที่สวยงามเจริญรุ่งเรืองด้วยธุรกิจท่าเรือและการค้า อีกทั้งยังผสมผสานประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ และความทันสมัยให้สมกับเป็นเมืองโอลิมปิก เป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือน |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเที่ยวชมเมือง นำท่านขึ้นสู่ยอดเขามอนต์จูอิก ชมความสวยงามของตัวเมืองอีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถานที่จัดงานกีฬาโอลิมปิกในปี 1992 อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมบนถนนกราเซีย นำคณะเข้าสู่จัตุรัสกาตาลุนญา จุดเริ่มของย่านถนนคนเดิน Las Ramblas ถนนที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในบาร์เซโลน่า มีทั้งสินค้านานาชนิด, แผงดอกไม้, ศิลปินเร่และละครใบ้ เชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวเดินชมอย่างไม่รู้เบื่อปลายสุดของถนนเป็นอนุสาวรีย์โคลัมบัส นักเดินเรือผู้ค้นพบโลกแถบใหม่หมู่เกาะ เวสต์อินดีส |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก
| HOTEL SILKEN DIAGONAL BARCELONA **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 9 | ซิตี้ออฟเกาดี้ - สวนสาธารณะ เกวล - โบสถ์ซากราด้า แฟมิเลีย - สนามฟุตบอลกัมป์นู - เดินทางไปสนามบิน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านไปชมงานสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ของเกาดี้ ที่ชาวบาร์เซภาคภูมิใจจนมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า City of Gaudi ท่านจะได้พบกับงานสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าคือ กาซ่า บัตโย ที่เกาดี้ออกแบบให้กับเศรษฐีสิ่งทอในบาร์เซโลนา อีกหนึ่งแห่งที่น่าชมคือ กาซา มิลา เกาดี้ ออกแบบให้กับนักธุรกิจผู้มั่งคั่งในปี 1906 แสดงถึงฐานะความมั่งคั่ง, ความคิดสร้างสรรค์ซึ่งถือเป็นแฟชั่นในยุคนั้น นำท่านไปชมสวนสาธารณะเกวล (Park Guell) เป็นหนึ่งในงานสุดรักสุดหวงที่เกาดี้อุทิศให้กับชาวเมือง ออกแบบตั้งแต่ปีค.ศ.1900-1914 นำชมสถานที่สุดท้ายของเกาดี้คือ โบสถ์ซากราด้า แฟมิเลีย งานก่อสร้างที่คืบหน้าไปแล้วกว่า 70% คาดการณ์แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 2030-2032 ด้วยงบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างเพิ่มเติมจากนี้ไปอีก 25 ล้านเหรียญยูโร เมื่อสร้างเสร็จจะเป็นโบสถ์ที่หอคอยสูงที่สุดในยุโรป 172.5 เมตร (ปัจจุบันหอคอยที่สูงที่สุดอยู่ที่เมือง Ulm ในประเทศเยอรมนี) ความพิเศษในงานของเกาดี้คือ การรวบรวมรูปทรงและพื้นผิวต่างๆ ในธรรมชาติมาใช้และสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของยอดเขาและความสูงของมองต์เซร์ราต |
เที่ยง | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำเข้าชมสนามฟุตบอล เอล กัมป์ โนว ของทีมบาร์เซโลน่า หรือคัมป์ นู (Camp Nou) ความจุ 98,787 คน เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ในเมืองบาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้านกาตาลูนย่า เปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1957 เคยใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อปี ค.ศ. 1982 นำชมความยิ่งใหญ่ของทีมบาร์เซโลน่า ในส่วนที่จัดแสดงเป็นมิวเซียม มีห้องถ้วยรางวัล,ห้องจัดแสดงประวัติและเรื่องราวของทีม, ห้องผลงานของเมสซี ที่รวบรวมแมทช์และการทำประตูอันน่าประทับใจ บางเรื่องราวบอกผ่านด้วยระบบมัลติมีเดียรวมถึงการชมแมทช์การแข่งขันแบบพาโนรามา ห้องแถลงข่าว และห้องเก็บตัวของนักฟุตบอลชื่อดังระดับโลก (ในกรณีวันเข้าชมตรงกับการแข่งขัน ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินค่าเข้าชม) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ออกเดินทางสู่สนามบินกรุง Barcelona เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ |
22.05 น. | ออกเดินทางโดย สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ โดยเที่ยวบินที่ EK188 |
วันที่ 10 | เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ |
07.45 น. | ถึง นครดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์) รอเปลี่ยนเที่ยวบิน |
09.30 น. | ออกเดินทางโดย สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ โดยเที่ยวบินที่ EK372 |
18.40 น. | นำท่านเดินทางกลับถึง กรุงเทพ ฯ โดยสวัสดิภาพ ** หมายเหตุ โปรแกรมดังกล่าวข้างต้น เป็นการนำเสนอโปรแกรมท่องเที่ยว ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากการจัดโปรแกรมของแต่ละวันเดินทางจะไม่เหมือนกัน โปรแกรมท่องเที่ยวที่สมบูรณ์ครบถ้วน จะส่งให้ท่าน 7 วัน ก่อนการเดินทางเท่านั้น |