วันที่ 1 | สนามบินสุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ) - เวียนนา (ออสเตรีย) |
21.30 น. | พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4เคาน์เตอร์ G สายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ พบเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก |
23.45 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดย เที่ยวบินที่ OS 026 (ใช้เวลาบิน ประมาณ 10.50 ช.ม.) |
วันที่ 2 | เวียนนา (ออสเตรีย) - กราซ (UNESCO) - เบลด (สโลวีเนีย) |
05.35 น. | เดินทางถึง สนามบิน Vienna International Airport หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง พร้อมรับสัมภาระเรียบร้อยนำท่านรับประทานบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า ณ Hotel NH Vienna Airportเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่ “เมืองกราซ” (GRAZ)(ระยะทาง 199 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชั่วโมง) ระหว่างทางชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองเกษตรกรรมทั้งสองข้างทาง เดินทางถึงเมืองกราซ (Graz) นำท่านชม เมืองกราซ (Graz) ซึ่งได้รับการยกย่อยให้เป็นเมืองศิลปวัฒนธรรมแห่งยุโรป (Cultural City of Europe) ที่มีการผสมผสานระหว่างความคลาสสิคของเมืองเก่าและทันสมัยของเมืองใหม่ในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างลงตัวที่สุด เมืองกราซ (Graz) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศออสเตรียเป็นรองเพียงแค่เมืองหลวงกรุงเวียนนาเท่านั้น ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนรับรองให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1999 และยังคงได้รับเลือกให้เป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของยุโรปในปี ค.ศ. 2003 อีกด้วย |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
บ่าย | นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ “เมืองเบลด” (Bled)ประเทศสโลวีเนีย(Slovenia) (ระยะทาง 222 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชั่วโมง) เดินทางถึง เมืองเบลด (Bled) เมืองเล็ก ๆ ซึ่งเคยได้รับรางวัลชนะเลิศรีสอร์ทของโลก ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเบลดที่งดงาม แวดล้อมด้วยธรรมชาติของขุนเขาแอลป์ที่เรียกว่า Julian Alps Mountainจึงถูกขนานนามว่าไข่มุกแห่งเทือกเขาแอลป์ ทะเลสาบเบลดแห่งนี้โดดเด่นด้วยเกาะกลางทะเลสาบที่น้ำทะเลสาบโดยรอบเป็นสีเขียวมรกต เมืองเบลด (Bled) เริ่มมีชื่อเสียงสำหรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1885 เมื่อแพทย์ชาวสวิสชื่อ Dr. Arnold Rivli เห็นคุณค่าของอากาศที่แสนบริสุทธิ์ของเมืองนี้ได้ย้ายมารักษาคนไข้ที่เมืองนี้และใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนี้เป็นเวลาถึง 50 ปี อีกทั้ง นโปเลียนยังเคยใช้เป็นสถานที่พักผ่อน ริมทะเลสาบยังมีคฤหาสน์ของติโต อดีตผู้รวมชาติยูโกสลาเวีย ซึ่งใช้เป็นที่รับแขกบ้านแขกเมือง จากนั้นนำท่าน “ล่องเรือเพลทน่า” ในทะเลสาบเบลด ซึ่งเป็นทะเลสาบที่มีความสวยงาม ผ่านชมเกาะเป็นที่ตั้งของโบสถ์ประจำเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ สร้างในศตวรรษที่ 11 เล่ากันว่าหากคู่สมรสคู่ใดได้มาโยกระฆังในโบสถ์จะมีชีวิตคู่ยืนยาว โดยเจ้าบ่าวจะต้องอุ้มเจ้าสาวขึ้นบันไดมาจากท่าเรือจนถึงประตูโบสถ์ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม |
ที่พัก
| โรงแรมที่พักระดับ 4 - 5 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | เบลด - ถ้ำโพสทอยน่า - ซาเกรบ (โครเอเชีย) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก นำท่านเดินทางสู่ “ถ้ำโพสทอยน่า” (POSTOJNA) (ระยะทาง 102 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ได้เวลาอันสมควร นำท่าน เข้าชมถ้ำโพสทอยน่า โดยการนั่งรถรางไฟฟ้าของทางถ้ำ (15-20 นาที) จากนั้นเดินชมถ้ำซึ่งถือว่าเป็นถ้ำที่สวยที่สุดในยุโรป มีอายุเก่าแก่กว่า 2 ล้านปี มีความยาวภายในถ้ำถึง 27 กิโลเมตร ผ่านลำธาร เขื่อนเก็บน้ำใต้ดินภายในถ้ำ (ระยะทางเดินประมาณ 2-3 กิโลเมตร) ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยหลากหลายแบบและสีสันสวยงามสุดพรรณนา มีห้องต่างๆ ภายในถ้ำมากมายลดหลั่นเป็นชั้นๆ ราวกับเนรมิตขึ้นมาจากสวรรค์ ท่านจะได้ชมความแปลกของ ปลามนุษย์ (Human Fish) ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกมากกว่า 10 ล้านคนมาเยือนถ้ำแห่งนี้ อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย **อุณหภูมิในถ้ำเฉลี่ย 9 องศาเซลเซียส ควรสวมเสื้อคลุมกันหนาวเข้าไปด้วย** |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
บ่าย | นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศข้ามพรมแดนสู่ กรุง “ซาเกรบ” (ZAGREB) (ระยะทาง 198 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) (มีการตรวจวีซ่าก่อนข้ามพรมแดน) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย (CROATIA) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี โดยเมืองซาเกรบได้เฉลิมฉลองครบรอบ 900 ปี ในปี ค.ศ.1994 ที่ผ่านมาเป็นเมืองหลวงที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรมและสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์มากมาย และเป็นหัวใจของการปกครอง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศ นำท่านชม มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen's) (การเข้าชมขึ้นอยู่กับวันและเวลา อาจมีการปิดหรือมีการทำพิธี) สถาปัตยกรรมที่มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี และปัจจุบันได้บูรณะ ปฏิสังขรณ์ในสไตล์นีโอ-โกธิค งดงามด้วยหอคอยแฝดปลายแหลมสีทองอร่าม ภายในประดิษฐานรูปนักบุญองค์สำคัญต่างๆ เช่น นักบุญเซนต์ปีเตอร์, เซนต์ปอลล์ ฯลฯ ชมอักษรโบราณที่เป็นอักษรภาพที่มีอายุนับพันปี นำท่านชม เมืองตอนล่าง (Lower Town) จัตุรัสกลางเมืองที่ล้อมรอบด้วยห้างร้านนำสมัย แหล่งชุมชนและศูนย์กลางเมืองของชาวซาเกรบ อันเป็นจุดที่รถรางสายสีฟ้าทั้งรุ่นใหม่และเก่า มาประจบกันที่นี่ ชม อนุสาวรีย์ Ban Josip Jelacic นายพลผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งต่อสู้เพื่อความอิสระจากชาวฮังการี เมื่อปี ค.ศ. 1848 ต่อด้วยนำท่านย่าน Flower Square อันเป็นที่ตั้งของโบสถ์ออโธดอก ที่มีเพียงไม่กี่แห่งในกรุงซาเกรบ นำท่านขึ้น รถรางไฟฟ้า (Funicular) สู่ เมืองตอนบน Upper Town เป็นรถรางสายที่สั้นที่สุดในยุโรป โดยใช้เวลาในการขึ้นเพียง 57 วินาที ชมวิวทิวทัศน์จากจุดชมวิวของเมืองตอนบน ที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 17 ที่มีซุ้มประตูหินเป็น ผ่านชมโบสถ์ เซนต์ มาร์ก (St. Mark Church) ที่มีหลังคาสวย แปลกตา ไม่เหมือนที่ไหนใดในโลก ชม ประตูเมืองโบราณ เป็นที่ตั้งของ รูปไอคอนพระแม่มารี ที่รอดพ้นจากเหตุไฟไหม้ในสมัย ศตวรรษที่ 19 โดยในเหตุการณ์ตอนนั้นทุกอย่างถูกเผาไหม้ มีเพียงรูปไอคอนที่ยังคงเหลือ จนทำให้ผู้คนมากราบไหว้บูชาขอสิ่งปาฏิหารย์ และมีการนำแผ่นหินอ่อน เขียนคำว่า ฮวา-ล่า (HVALA) แปลว่า “ขอบคุณ” มาติดไว้ตามผนังจนเต็มไปหมด |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
ที่พัก | โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | ซาเกรบ - คาโลวัช - อุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่ เจเซร่า (Unesco) - ซาดาร์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่ อุทยานแห่งชาติ พลิตวิเซ่ ระหว่างทางแวะถ่ายรูปที่พิพิธภัณฑ์สงครามกลางแจ้ง ณ เมืองคาโลวัช เมืองผลิตเบียร์ชื่อดังของประเทศโครเอเชีย ผ่านชมธรรมชาติและความงามของทิวทัศน์สองข้างทางที่รายล้อมด้วยป่าเขาสลับ ทุ่งหญ้า ฟาร์มเกษตรที่อุดมสมบูรณ์
|
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
บ่าย | นำท่านชมความสวยงาม อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ (National Park Plitvice Jezera) ที่ตั้งอยู่ใจกลางของประเทศ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เมื่อปี 1979 อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 269 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำมีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้า รวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา ท่านจะเพลิดเพลินเดินชมความงามของทะเลสาบและน้ำตกที่ไหลรวยรินลงสู่ทะเลสาบทั่วทุกหนทุกแห่ง นำท่านเดินชมธรรมชาติอันสวยงาม ชม ฝูงปลา แหวกว่ายในสระน้ำใสราวกระจกสะท้อนสีครามของท้องฟ้า แวดล้อมด้วยหุบเขา ต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น.. นำท่านสู่ท่าเรือ ล่องเรือข้าม KOZJAK LAKE ที่เชื่อมระหว่างทะเลสาบล่างขึ้นสู่ชั้นบนของอุทยาน (LOWER & UPPER LAKE) จากนั้นเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามและอลังการของ LOWER LAKE ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และงดงามท่ามกลางหุบเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่าน อีกทั้งยังเชื่อมต่อด้วยน้ำตกต่าง ๆ มากมาย นำท่านเดินชม ทะเลสาบต่าง ๆ ตามทางเดินสะพานไม้ที่เชื่อมแต่ละทะเลสาบเข้าด้วยกันทั้ง 16 แห่ง และนอกจากนั้นบริเวณรายล้อมยังเต็มไปด้วยถ้ำน้อยใหญ่และ ชม Big Waterfalls ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งนี้ จากนั้นนำท่านเดินทางออกจากพลิทวิเซ่ ตอนกลางของประเทศโครเอเชียสู่ เมือง “ซาดาร์” (ZADAR) (ระยะทาง 119 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง) แคว้น “ดัลมาเชีย” เป็นแคว้นทางตอนใต้ที่มีลักษณภูมิอากาศและภูมิประเทศแบบเมดิเตอร์เรเนียนขนานแท้ หากใครเคยได้ยินชื่อหรือรู้จักสุนัขพันธุ์ “ดัลมาเชี่ยน” ดินแดนดัลมาเชียน แห่งนี้คือต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์นี้นี่เอง |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก |
ที่พัก | โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | ซาดาร์ - โทรเกียร์ (UNESCO) - สปลิท (UNESCO)ชมพระราชวังโบราณ (UNESCO) - โมสตาร์ (UNESCO) บอสเนีย & เฮอเซโกวีน่า |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก นำท่านเดินทางสู่ “เมืองโทรเกียร์” (Trogir)เมืองมรดกโลก(ระยะทาง 214 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชั่วโมง) ชมเขตเมืองเก่าโทรเกียร์ที่มีสถาปัตยกรรมในสไตล์ กรีก– โรมันโบราณ อาทิเช่น ประตูเมืองเก่าที่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อศตวรรษที่ 16 , หอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 14 ผ่านชม มหาวิหารเซ็นต์ลอว์เรนซ์ (St. Lawrence’s Cathedral)ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาก่อสร้างนับสิบปี ที่มีความงดงามด้วยกรอบและบานประตูหินแกะสลัก มีรูปปั้นสิงโต อดัม & อีฟ และรูปสลักนักบุญเซนต์ลอว์เรนซ์องค์สำคัญ ที่ผู้สร้างมหาวิหารแห่งนี้อุทิศให้ มีเวลาให้ท่านเดินเล่นในเมืองเก่า เลือกซื้อสินค้าท้องถิ่นที่ระลึกมากมายในเขตเมืองเก่าโทรเกียร์แห่งนี้ นำท่านเดินทางสู่ “เมืองสปลิท” (Split) (ระยะทาง 28 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที)สปลิทเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ เป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของโครเอเชีย สามารถนั่งเรือข้ามฟากระหว่างประเทศไปที่ประเทศอิตาลีได้ ณ เมืองแห่งนี้ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
|
บ่าย | นำท่านชม “พระราชวังดิโอคลีเชี่ยน” (Diocletian’s Palace) ที่สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิดิโอคลีเชี่ยน ที่ต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 10 ปี UNESCO ในยุคสมัยของจักรพรรดิดิโอคลีเชี่ยน เป็นช่วงยุคสมัยเริ่มต้นของจักรวรรดิโรมันตะวันออก หรือ จักรวรรดิไบเซนไทน์นั่นเอง พระราชวังดิโอเคลเชี่ยนได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979 ชมห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ชมลานกว้างซึ่งล้อมไว้ด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้านและเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรสวยงาม อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านสู่ “เมืองโมสตาร์” (Mostar) ประเทศบอสเนียและเฮอเซโกวีน่า (Bosnia& Herzegovina) (ระยะทาง 168 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชั่วโมง) ระหว่างข้ามพรมแดนจะมีการตรวจวีซ่าด้วย โดยระหว่างทางท่านจะผ่านเมืองสวยชื่อว่าเมืองโอมิช (Omis) เป็นเมืองสวยตั้งอยู่ริมทะเลอาเดรียติค โมสตาร์ เป็นเมืองที่เคยถูกระเบิดครั้งใหญ่และโดนผลกระทบในช่วงสงครามระหว่างเซิร์บกับโครแอต โมสตาร์เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ ตั้งอยู่บนแม่น้ำเนเรทวา (Neretva) ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นพรมแดนกั้นวัฒนธรรมของสองท้องถิ่น คือทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจะเป็นส่วนของศาสนาอิสลามคือเป็นส่วนที่เป็นที่ตั้งของสุเหร่าและเตอร์กิสเฮาส์ ส่วนฝั่งตะวันตกจะเป็นส่วนของศาสนาคริสต์แบบคาทอลิก อันเป็นที่ตั้งของโบสถ์และที่อยู่ของนักบวช ปัจจุบันโมสตาร์เป็นเมืองที่สวยงามและโด่งดังที่สุดอีกแห่งหนึ่งประเทศของบอสเนีย คำว่า โมสตาร์ มาจากคำว่า “The Bridge Keepers” หรือแปลว่า ชาวโมสตาร์ที่คอยดูรักษาสะพานที่ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำเนเรทวา
|
ค่ำ | รับประทานอาคารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
ที่พัก | โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | โมสตาร์ - มาลี สตอน (โครเอเชีย) - ดูบรอฟนิค |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก นำท่านเยี่ยมชม ฟาร์มเลี้ยงหอย ชมขั้นตอนต่างๆของการเลี้ยงหอย แล้วให้ท่านได้ ชิมหอยนางรมสดๆ จากทะเลอเดรียติคพร้อมด้วยเครื่องเคียง และจิบไวน์สด ท่ามกลางความสวยงามของอ่าวมาลี สตอน |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน แบบพื้นเมือง ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ “เมืองดูบรอฟนิค” (Dubrovnik) (ระยะทาง 53 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง) ดูบรอฟนิค หรือ ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติก เมืองทางตอนใต้ของสาธารณรัฐโครเอเชีย เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโครเอเชีย และเป็นเมืองที่สวยงามติดอันดับต้นๆของโลก ซึ่งในอดีตเมื่อปี 1991 เมืองดูบรอฟนิค ได้ถูกโจมตีจากกองทหารยูโกสลาฟ บ้านเรือนกว่าครึ่ง อนุสาวรีย์ต่างๆ เสียหาย และทรุดโทรม หลังจากนั้นในปี 1995 ได้มีการได้มีการลงนามในสนธิสัญญา ERDUT สงบศึก และเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ UNESCO และสหภาพยุโรป ได้ร่วมกันบูรณะ ซ่อมแซม เมืองส่วนที่เสียหายขึ้นใหม่ในระยะเวลาอันสั้น ปัจจุบันเมืองดูบรอฟนิค ก็กลับมาสวยงามอีกครั้ง และมีการส่งเสริมให้เป็นมรดกโลกอีกเมืองหนึ่งชมทัศนียภาพของเมืองซึ่งดูบรอฟนิค ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลอาเดรียติค ตัวเมืองจะเป็นป้อมปราการโบราณที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก |
ที่พัก | โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | ดูบรอฟนิค - กอตอร์(มอนเตเนโกร) - บุดวา |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก ช่วงเช้ามีเวลาช่วงสั้น ๆ ให้ท่านได้อิสระพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สถานีเคเบิลคาร์ เพื่อขึ้น กระเช้าไฟฟ้า สู่ ยอดเขา SRD ที่มีความสูง 400 เมตร เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองหลังคาสีและความงดงามทะเลอาเดรียติก ยามสีน้ำเงินของทะเลอาเดรียติกตัดกับสีส้มแสดของกระเบื้องหลังคาเมืองเก่า สวยงามเกินจินตนาการมากกว่าคำบรรยายใด ๆ นำท่านเยี่ยมชม “เมืองเก่าดูบรอฟนิค” (Dubrovnik)ถ่ายรูปที่ระลึกบริเวณจัตุรัสกลางเมืองซึ่งเป็นสถานที่นัดพบและประกอบกิจกรรมของชาวเมืองในอดีต รวมถึงสถานที่ลงโทษผู้กระทำผิดด้วย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกกับ เสาหินอัศวิน (Orlando Column) หอนาฬิกา (Bell Tower)ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลัก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1444 หน้าปัดทำด้วยเหล็ก มีความพิเศษตรงลูกกลม ๆ ใต้หน้าปัดซึ่งแทนพระจันทร์บอกข้างขึ้นข้างแรมในสมัยก่อน และรูปปั้นของ นักบุญ St. Blaiseซึ่งมีโบสถ์ประจำเมืองสไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลังเพิ่มเสน่ห์มนต์ขลังสวยสดงดงาม |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองริมทะเล เมนูพิเศษ กุ้ง LOBSTER ย่าง เสิร์ฟพร้อมสปาเก็ตตี้ ริมทะเลอาเดรียติค
|
บ่าย | นำท่านข้ามพรมแดนสู่ ประเทศมอนเตเนโกร (Montenegro) แปลความหมายเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า BLACK MOUNTAIN หรือ "ภูเขาสีดำ" ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ ปัจจุบันมอนเตเนโกรเป็นประเทศสมาชิกของสหประชาชาติ และพยายามร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป ST.TRIPHUN CHURCH โบสถ์นิกายคาทอลิก และ ST.NIKOLA CHURCH โบสถ์นิกายออโธดอกซ์ จากนั้นเมื่อได้เวลาอันสมควร นำท่านสู่ “เมืองบุดวา” (BUDVA) (ระยะทาง 23 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที)เป็นเมืองโบราณตั้งอยู่บนชายฝั่งอาเดรียติค เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดอีกแห่งที่ตั้งอยู่รอบทะเลอาเดรีตติค มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 2,500 ปี ปัจจุบันได้รับฉายาว่าเป็น “ริเวียร่าแห่งมอนเตเนโกร” นำท่านเที่ยวชม เมืองเก่า “บุดวา” (Budva) เมืองติดชายหาดที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวอย่างหนาแน่น |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
ที่พัก | เมือง “Budva” โรงแรมในแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศมอนเตเนโกร ในระดับ 4 – 5 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่ 8 | บุดว่า - พอตกอริซ่า - เวียนนา (ออสเตรีย) - พิเศษ!! นำท่านช็อปปิ้ง พาร์ดอร์ฟเอาท์เลท |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก นำท่านเที่ยวชม เมืองเก่า “บุดวา” (BUDVA) เมืองติดชายหาดที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวอย่างหนาแน่น นำท่านชม ST.JOHN CHURCH โบสถ์คาทอลิก ซึ่งใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมของบาทหลวงสมัยก่อน ชม SANTA MARIA CHURCH และ CHURCH OF TRINITY ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม มีเวลาให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าของฝากจากเมืองบุดว่าได้ตามอัธยาศัย และเมื่อได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ กรุง พอดกอริซ่า เมืองหลวงของประเทศมอนเตเนโกร |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ สนามบิน พอดกอรีซา สนามบินนานาชาติ ณ เมืองหลวงของประเทศมอนเตเนโกร |
15.00 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบิน ออสเตรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบิน OS 728 [ใช้เวลาบิน ประมาณ 1:40 ชม.] |
16.40 น. | เดินทางถึง กรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย พิเศษ!!! นำท่านเดินทางออกนอกสนามบิน เพื่อช้อปปิ้ง ณ พาร์นดอร์ฟเอาท์เลทสถานที่ช้อปปิ้งเอาท์เลทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรีย หมายเหตุ: วันจันทร์ – วัพฤหัสบดี เปิด 09.30 น. – 20.00 น. วันศุกร์ เปิด 09.30 น. – 21.30 น. / วันเสาร์ เปิด 09.00 น. – 18.00 น. / วันอาทิตย์ปิด **เพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้งของท่าน อิสระมื้อเย็นตามอัธยาศัย** |
19.30 น. | นำท่านเดินทางกลับสู่ สนามบินเวียนนา ***หมายเหตุ ระหว่างรอเครื่องในสนามบินเวียนนา ท่านสามารถซื้อสินค้าในสนามบิน หากราคาสินค้าในบิลเดียวกันเกิน 75 ยูโร สามารถทำภาษีคืนได้ (TAX REFUND) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ INFORMATION สนามบินเวียนนา |
23.20 น. | ออกเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย โดยเที่ยวบิน OS 025 [ใช้เวลาบิน ประมาณ 10 ชั่วโมง] |
วันที่ 9 | กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) |
14.20 น. | เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ |