รายละเอียดทัวร์

www.TripleEnjoy.com
by Double Enjoy Travel Co., Ltd.

300/50 Nawamin Road, Nawamin, Buengkum, BKK 10240
Tel: 02-379-2955  Hotline: 099-130-6886  Fax: 02-379-1163 (Auto)

 Website: www.tripleenjoy.com   E-mail: [email protected]


 

Juristic Identification No. 0125554005216                                                               TAT License No. 11/05307


ทัวร์ตุรกี

TE245 : โปรแกรมทัวร์ตุรกี คัปปาโดเกีย ภูเขาเนมรุต อิสตันบูล [ตุรกีตะวันออก + บินภายใน 2 เที่ยว] 10 วัน 7 คืน (TK)


Turkish Airlines (TK)
พิมพ์ พิมพ์ คัดลอก URL คัดลอก URL
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
EUPHRAT NEMRUT
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
HILTON AVANOS
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
HILTON GARDEN INN ADIYAMAN
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
RAMADA TEKSTILKENT OR GONEN OR RADISSON BLU AIRPORT
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
SURMELI ADANA HOTEL
TE245 : โปรแกรมทัวร์ตุรกี คัปปาโดเกีย ภูเขาเนมรุต อิสตันบูล [ตุรกีตะวันออก + บินภายใน 2 เที่ยว] 10 วัน 7 คืน (TK)
 

 
รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพฯ
​20.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน U  ประตูทางเข้าที่ 9 หรือ 10 อาคารผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
​23.00 น.ออกเดินทางสู่ นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 69 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.15 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ บริการ อาหารค่ำและอาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินสู่ นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี 
วันที่ 2อิสตันบูล -  คัปปาโดเกีย 
​05.20 น. เดินทางถึง กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่อาคารผู้โดยสารในประเทศเพื่อขึ้นเที่ยวบินสู่ เมืองไคเซรี่ (Kayseri)  เที่ยวบิน TK2026
08.50 น. ออกเดินทางจาก สนามบินอิสตันบูล (IST) สู่ สนามบินเมืองไคเซรี่ (Kayseri)  โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ส โดยเที่ยวบิน TK2026  มีบริการอาหารว่างบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชม.)
​10.25 น. เดินทางถึง สนามบินเมืองไคเซรี่
​กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น 
​บ่าย นำท่านชม ป้อมออธาฮิซาร์ (Ortahisar Fortress) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ปราสาทกลาง (Middle Castle) เนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคคัปปาโดเกีย และยังเป็นหนึ่งในปล่องไฟนางฟ้าที่มีความสูงที่สุดในภูมิภาคด้วย  เดิมทีถูกใช้เป็นป้อมปราการไว้ทางการทหารในอดีตยุคไบเซนไทน์ ร่วมกับอีกสองป้อมปราการที่สำคัญในภูมิภาค คือ Baskale Castle และ Uchisar Castle ปัจจุบันได้มีการบูรณะให้คงสภาพสวยงามและเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถชมได้ตั้งแต่ปี ค.ศ.2013 เป็นต้นมา โดยใช้เวลากว่า 9 ปี ร่วมด้วยนักธรณีวิทยาที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกช่วยกันต่อเติมโครงสร้างในมีความแข็งแรงและเหมาะสมสำหรับนักท่องเที่ยว ว่ากันว่านักเดินทางที่สามารถไต่จนถึงบนยอดปราสาทที่ระดับความสูงราว 90 เมตร สามารถชมหุบเขาต่างๆรวมถึงปล่องไฟนางฟ้า และภูเขาไฟเอซิเยสได้อย่างงดงามในวันที่ฟ้าเปิด บริเวณรอบๆปราสาทเต็มไปด้วยบ้านที่สร้างจากหินภูเขาไฟและชุมชนผู้อยู่อาศัยท้องถิ่น

จากนั้นนำท่านชม ปราสาทอุชิซาร์ (Uchisar Castle) หินภูเขาไฟทางธรรมชาติที่สูงที่สุดในภูมิภาคคัปปาโดเกีย ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของบริเวณนี้ สามารถมองเห็นได้จากระยะไกลทั้งจากหุบเขานกพิราบและหุบเขาอื่นๆมากมาย ภายในตัวภูเขา เต็มไปด้วยห้องที่เชื่อมต่อกันมากมาย เคยถูกใช้เป็นป้อมปราการ และยังเป็นที่ลี้ภัยสงครามสำหรับซ่อนตัวยามข้าศึกรุกราน และจากนั้นมาเป็นที่พักอาศัยนานนับทศวรรษตั้งแต่อดีตกาล บริเวณรอบๆเต็มไปด้วยที่พักอาศัยของชาวเมือง ร้านค้าของชำร่วยมากมาย ปัจจุบันปราสาทอุชิซาร์ถูกอนุรักษ์เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่อุทยานแห่งชาติตั้งแต่ ปี ค.ศ.1986 โดยองค์กรยูเนสโก้เป็นต้นมา ได้เวลานำท่านแวะชมโรงงานทอพรม ต่อด้วยโรงงานอัญมณี พร้อมจับจ่ายซื้อของฝากตามอัธยาศัย 
​ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรมที่พัก
ที่พัก  HILTON AVANOS / OR SUHAN HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 3หุบเขาอิลารา - โบสถ์ Kokar Kilise -  โบสถ์ Agacalti Kilise - อาดานา - สุเหร่า Sebanci Central Mosque
Optional(ท่านสามารถเลือกซื้อ Optional Hot Air Balloon Tour ได้ สนนราคาประมาณ 220 USD ต่อท่าน สำหรับประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และ เครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นการเลือกซื้อ Optional tour ขึ้นกับดุลยพินิจของท่าน) 

**Optional balloon tour ไม่ได้รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ การดำเนินการการของบริษัทบอลลูนว่าขึ้นได้ หรือขึ้นไม่ได้ อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัททัวร์ และไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆกับบริษัททัวร์

*** ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวมากมายเข้าไปท่องเที่ยวเขตคัปปาโดเกียเพื่อขึ้นบอลลูน ซึ่งบริษัทบอลลูนก็มีทั้งที่ขึ้นทะเบียนถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ทั้งนี้ปริมาณการจองค่อนข้างสูง ทำให้บางคณะอาจไม่สามารถจองได้ หรือบางคณะจองได้ แต่บอลลูนเกิดขัดข้องก่อนขึ้น และไม่ได้ขึ้นเนื่องด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ***
​เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเที่ยวชม หุบเขาอิลารา  (Ihlara Valley)  ซึ่งมีลักษณะเป็นหุบเขาคล้ายแกรนด์แคนยอน ประกอบด้วยหน้าผาอันสูงชันและหุบเหว แต่มีความชุ่มชื้นเขียวขจีสมบูรณ์มาก กินพื้นที่หลายสิบกิโลเมตร และมีแม่น้ำไหลผ่านที่ก้นหุบเขานี้ อยู่ในอาณาบริเวณของเทือกเขา Hasan และ ภูเขา Melendiz เชื่อกันว่าในอดีตกาลเคยมีผู้คนอาศัยอยู่ราวแปดหมื่นคนในย่านนี้ รวมกว่า 4 พันครัวเรือนและเต็มไปด้วยโบสถ์ที่มีจิตรกรรมฝาผนังแบบเฟรสโก้อันสวยงามนับร้อยโบสถ์ ซึ่งปัจจุบันได้ถูกอนุรักษ์ไว้ และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเพียงส่วนน้อยเท่านั้น

นำท่านชม โบสถ์ Kokar Kilise หรือ The Odorous Church หนึ่งในโบสถ์นับร้อยแห่งหุบเขาอิลารา ภายในเต็มไปด้วยจิตรกรรมฝาผนังแบบเฟรสโก้ ซึ่งเขียนเล่าเรื่องราวของพระแม่มารีและการประสูติของพระเยซูคริสต์ เล่าเป็นเรื่องราวผ่านภาพเขียนจนกระทั่งถึงพระกระยาหารมื้อสุดท้าย (The Last Supper) จวบจนเหตุการณ์ตรึงกางเขน นักโบราณวิทยาได้ประเมินว่าภาพเขียนเหล่านี้ ถูกวาดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 9-11

จากนั้นชม โบสถ์ Agacalti Kilise  หรือ The Church under the tree อีกหนึ่งโบสถ์ที่มีความสวยงามของสถาปัตยกรรมโบราณ ที่มีความแตกต่างจากโบสถ์อื่นๆในช่วงยุคศตวรรษที่ 10-11 ที่ปกครองโดยจักรวรรดิไบเซนไทน์อย่างสิ้นเชิง โดยมีสีแดงเขียวและเหลืองที่แตกต่างกันอย่างลงตัวสีของภาพวาดและการตกแต่งของดอกไม้ดอกโบตั๋นและรูปแบบกระดานหมากรุกทั้งหมด จุดประสงค์เพื่อแสดงการต่อต้านการรุกรานจากอิทธิพลตะวันออก อีกฟากผนังฝั่งตรงข้ามบอกเล่าเรื่องราวของพระแม่มารี พระเยซูคริสต์ และนักบุญเซนต์จอห์น
​กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
​บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมือง อาดานา (Adana) (ระยะทาง 254 กม. ใช้เวลาเดินทาง 4 ชม.) หนึ่งในเมืองสำคัญทางตอนใต้ของประเทศตุรกี อยู่ห่างจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนราว 35 กิโลเมตร  มีประชากรอาศัยราว 1.7 ล้านคน เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 5 ของประเทศตุรกี

นำท่าน แวะถ่ายรูปกับ สะพานหิน (Stone Bridge) ก่อสร้างตั้งแต่ยุคโรมัน ราว 120-135 ปีก่อนคริสตกาล เพื่อเป็นจุดเชื่อมต่อเส้นทางลำเลียงสินค้าระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปยังดินแดนอนาโตเลีย และเปอร์เซีย เป็นหนึ่งในสะพานที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่สามารถให้ยานยนต์สามารถแล่นผ่านได้ จวบจนยกเลิกให้เป็นทางเท้าเท่านั้นในปี ค.ศ.2007 เป็นต้นมา ปัจจุบันเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมือง มีความยาวทั้งสิ้นราว 300 เมตร

นำท่านชม สุเหร่า Sebanci Central Mosque สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1998 ใช้เวลาก่อสร้างราว 10 ปี ปัจจุบันเป็นสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศตุรกี ด้วยความสูงของโดม 54 เมตร และความสูงของหอคอย Minaret ที่ 99 เมตร บนเนื้อที่กว่า 52,600 ตารางเมตร สามารถให้ศาสนิกชนร่วมประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ราว 28,500 คน สุเหร่ากลางแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของมูลนิธิทางศาสนาของตุรกีและมูลนิธิ Sabanci 
​ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก
ที่พัก SURMELI ADANA  HOTEL / OR DIVAN / OR RAMADA หรือเทียบเท่า
วันที่ 4กาเซียนเทป - พิพิธภัณฑ์ซุกม่า โมเสก - ซานลีอูร์ฟา - ถ้ำแห่งอับราฮัม
​เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองกาเซียนเทป (Gaziantep) (ระยะทาง 223 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.) เมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกีในเขตอนาโตเลีย เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังมีประชากรตั้งรกรากอาศัยอยู่ โดยมีชื่อเมืองในอดีตว่า แอนเทป (Antep) ในยุคออตโตมัน ซึ่งมีสมมติฐานหลากหลายถึงที่มาของชื่อเมืองโบราณแห่งนี้ และหนึ่งในนั้นเป็นรากศัพท์ภาษาฮีไทด์ ซึ่งแปลว่า ดินแดนแห่งกษัตริย์ (The King’s land) ในปี ค.ศ.1921 รัฐสภาตุรกีได้ประกาศยกย่องเมืองกาเซียนเทปให้เป็น “แอนเทป วีรบุรุษทางสงคราม” ด้วยเหตุที่สามารถต่อกรกับกองกำลังฝรั่งเศสในสงครามฟรังโก้-เตอร์กิช ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสงครามก่อนที่ตุรกีจะได้ประกาศตนเป็นอิสรภาพ ซึ่งต่อมาได้ถูกเปลี่ยนชื่อเมืองเป็นกาเซียนเทป เมื่อปี ค.ศ.1928

นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์ซุกม่า โมเสก (Zeugma Mosaic Museum) พิพิธภัณฑ์โมเสกที่ใหญ่ที่สุดในโลก บนเนื้อที่พิพิธภัณฑ์จัดแสดงกว่า 90,000 ตารางเมตร เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2011 คอลเลคชั่นพิพิธภัณฑ์ซุกม่าโมเสกประกอบด้วยกระเบื้องโมเสก 2,448 ตารางเมตรจากสมัยโรมันและปลายยุคโบราณ จิตรกรรมฝาผนังกว่า 140 ตารางเมตร ประกอบทั้งโบราณวัตถุมากมายที่จัดแสดงในสถานที่แห่งนี้ และภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดซึ่งนักท่องเที่ยวต่างแวะมาเยี่ยมชม คือภาพโมเสกสาวยิปซี

จากนั้นนำท่านชม ปราสาทกาเซียนเทป (Gaziantep Castle)  ป้อมสังเกตการณ์โบราณที่สร้างขึ้นด้วยหินในยุคจักรวรรดิฮีไทด์และภายหลังต่อเติมเป็นปราสาทเต็มรูปแบบยุคจักรวรรดิโรมัน  ตั้งอยู่บนเชิงเขาใจกลางเมืองกาเซียนเทป ประกอบด้วยหอคอยทั้งหมดจำนวน 12 หอ ซึ่งหลักฐานทางประวัติศาสตร์บ่งชี้ว่าเป็นหนึ่งในป้อมปราการสำคัญที่ไว้ต่อต้านกองกำลังฝรั่งเศสหลังถูกรุกรานจากการล่มสลายของจักรวรรดิออตโตมัน ปัจจุบันปราสาทกาเซียนเทปเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองซานลีอูร์ฟา (Sanliurfa) (ระยะทาง 150 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) หรือชื่อเรียกพื้นเมืองคือ เมืองอูร์ฟา (Urfa) หรือในอดีตเรียก อิเดสซ่า (Edessa) ตั้งอยู่บริเวณที่ราบ ห่างจากแม่น้ำยูฟราเตส (Euphrates River) ราว 80 กิโลเมตร เป็นหนี่งในเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดเมืองหนึ่งของโลก ก่อตั้งเมื่อ 4 ปีก่อนคริสตกาลตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ แต่เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดก่อนหน้านั้น โดยย้อนไปถึงราว 9000 ปีก่อนคริสตกาล เมืองอูร์ฟาเป็นเมืองบ้านเกิดของ อับราฮัม หรือ อับราม ศาสดาผู้มีความสำคัญทางศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์ตามพระคัมภีร์

นำท่านชม ถ้ำแห่งอับราฮัม (Cave of Abraham)  สถานที่เกิดของท่านศาสดาอับราฮัมในเมืองอูร์ฟาเป็นสถานที่แสวงบุญที่มีชื่อเสียงในหมู่ศาสนิกชนที่มาสวดภาวนาและแสดงความเคารพต่อศาสดาที่มีความศรัทธาให้ เชื่อกันว่าศาสดาอับราฮัมเกิดในถ้ำแห่งนี้ และใช้เวลากว่าสิบปีในช่วงหนึ่งของชีวิตเพื่อปกป้องทารกแรกเกิดที่ถูกสั่งฆ่าโดยคำสั่งของกษัตริย์นิมรอทผู้โหดร้าย 

จากนั้นนำท่านชม บ่อปลาศักดิ์สิทธิ์ (The pool of Sacred fish) หนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองอูร์ฟา ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ซึ่งกษัตริย์นิมรอทได้โยนศาสดาอับราฮัมลงสู่กองฟืนที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิง แต่กองไฟเหล่านั้นกลับเปลี่ยนเป็นสายน้ำ และกองฟืนได้เปลี่ยนกลายเป็นปลาศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันบ่อน้ำแห่งนี้เต็มไปด้วยปลาคาร์ฟ ซึ่งเชื่อกันว่าหากผู้ใดได้เห็นปลาคาร์ฟสีขาวจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต 
​ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก 
ที่พัก EL RUHA HOTEL / OR HILTON GARDEN INN SANLUIRFA  หรือเทียบเท่า
วันที่ 5ฮาราน - เขื่อนอะตาเติร์ก - อดิยามาน
​เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮาราน (Harran) (ระยะทาง 50 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.)  หนึ่งในเมืองโบราณสำคัญบริเวณดินแดนเมโซโปเตเมียตอนบน ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้งในแง่ของการพาณิชย์ วัฒนธรรม และความเชื่อทางศาสนาในช่วงยุคทองสำริด หรือประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล

นำท่านชม หมู่บ้านรวงผึ้ง (The Beehive Village) หมู่บ้านที่สร้างหลังคาทรงโคนขึ้นด้วยหินลักษณะคล้ายคลึงกับรวงผึ้ง ตัวโครงบ้านสร้างขึ้นจากดินโคลน ขึ้นโครงด้วยเสา และพอกด้วยมูลวัว บ้างอาจมีการเจาะรูเพื่อเป็นช่องระบายอากาศเพื่อให้มีอากาศไหลเวียนถ่ายเทเข้าตัวบ้าน เชื่อกันว่าการสร้างบ้านลักษณะนี้เป็นอิทธิพลจากชนม์เผ่า Bantu ซึ่งมีรกรากออยู่บริเวณระหว่างทะเลทรายซาฮาร่าและทวีปแอฟริกา 
​กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
​บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เขื่อนอะตาเติร์ก (Ataturk Dam) (ระยะทาง 114 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.)  หรือชื่อเดิมคือ เขื่อนคาราบาบา (Karababa Dam) สร้างขึ้นจากหิน ด้วยจุดประสงค์เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าและเพื่อทดน้ำสู่ที่ราบ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1983 และเสร็จสิ้นภายใน 7 ปีเมื่อปี ค.ศ.1990 โดยอ่างเก็บน้ำเบื้องหลังเขื่อนอะตาเติร์กเป็นอ่างเก็บน้ำที่มีความจุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นลำดับ 3 ของโลก ที่ความจุ 48,700 ล้านลูกบาศก์เมตร

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองอดิยามาน (Adiyaman) (ระยะทาง 56 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.)  ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้ง

ก่อนมุ่งหน้าสู่ ภูเขาเนมรุต (Mount Nemrut) 
​ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก 
ที่พัก EUPHRAT NEMRUT/ OR HILTON GARDEN INN ADIYAMAN หรือเทียบเท่า
​วันที่ 6ภูเขาเนมรุต - ดิยาบากีร์ - มาร์ดิน
​เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ ภูเขาเนมรุต (Mount Nemrut) หรือภูเขาเทพเจ้า ภูเขาเนมรุตสูงอยู่ที่ระดับ 2,134 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งบนยอดเขารายล้อมด้วยรูปปั้นหัวคนมากมาย ซึ่งคาดว่าเป็นสุสานกษัตริย์ตั้งแต่สมัยราว 100 ปีก่อนคริสตกาล โดยหลักฐานทางประวัติศาสตร์บ่งชี้ว่า กษัตริย์ Antiochus ที่ 1 แห่งอาร์เมเนีย ได้มีคำสั่งให้สร้างสุสาน ซึ่งประกอบด้วยรูปปั้นจำลองของตน สูงราว 8-9 เมตร รูปปั้นสิงโตและนกอินทรีย์ เป็นคู่ๆ รวมไปถึงรูปปั้นเทพต่างๆตามตำนานกรีกและอาร์เมเนีย ซึ่งภายหลังถูกทำลายลงจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้ส่วนหัวกับส่วนตัวถูกแยกออกจากกัน เรียงรายเป็นหย่อมๆล้อมรอบบริเวณภูเขาเนมรุต ภูเขาเนมรุตถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของประเทศตุรกีโดย UNESCO เมื่อปี ค.ศ.1987 
​กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
​บ่ายนำท่านเดินทางสู่ เมืองดิยาบากีร์ (Diyarbakir) (ระยะทาง 169 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.)  หนึ่งในหัวเมืองหลักทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี มีประชากรอาศัยราว 2.5 ล้านคน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไทกรีส (Tigris River) โดยประชากรที่อาศัยในเมืองนี้มีทั้งชาวตุรกีและชาวเคิร์ด

นำท่านชม กำแพงเมืองดิยาบากีร์ (Diyarbakir City wall / Fortress) ซึ่งในอดีตใช้เป็นป้อมปราการป้องกันเมืองจากข้าศึก โดยกำแพงเมืองได้แบ่งเป็นสองชั้น สร้างขึ้นครั้งแรกราว 297 ปีก่อนคริสตกาลโดยชาวโรมันตามคำสั่งของจักรพรรดิคอนแสตนติอุสที่ 2 และถูกต่อเติมเรื่อยมา ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยหินภูเขาไฟ และครั้งหนึ่งถูกขนานนามโดยเหล่าแม่ทัพว่าเป็น ป้อมปราการดำ “The Black Fortress” เป็นหนึ่งในกำแพงเมืองโบราณยุคก่อนคริสตกาล ซึ่งยังคงถูกรักษาสภาพไว้ได้เป็นอย่างดีจวบจนถึงยุคปัจจุบัน กำแพงเมืองดิยาบากีร์ครั้งหนึ่งถูกนำไปเทียบชั้นเป็นรองเพียงกำแพงเมืองจีนในแง่ของกำแพงป้องกันเมือง นอกจากนี้กำแพงเมืองดิยาบากีร์ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของประเทศตุรกีโดย UNESCO เมื่อปี ค.ศ.2015

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ สุเหร่าประจำเมืองดิยาบากีร์ (The Great Mosque of Diyabajir) หนึ่งในสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญเป็นลำดับต้นๆของดินแดนเมโซโปเตเมีย สุเหร่าถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.639 และถูกใช้งานช่วงระยะเวลาหนึ่งเป็นโบสถ์แห่งนักบุญเซนต์จอห์น และภายหลังแปลงกลับเป็นสุเหร่าใน ปี ค.ศ. 1091 ซึ่งหลากหลายส่วนได้รับแรงบันดาลใจและมีอิทธิพลด้านสถาปัตยกรรมคล้ายคลึงกับสุเหร่าอุมันยะฮ์แห่งนครดามัสกัสของประเทศซีเรีย 

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองมาร์ดิน (Mardin) (ระยะทาง 85 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) 
​ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก 
ที่พัก HILTON GARDEN INN ADIYAMAN หรือเทียบเท่า
วันที่ 7มาร์ดิน - สุเหร่าอูลูแห่งเมืองมาร์ดิน - ฮาซานเคียฟ - วาน
​เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านชม Zinciriye Medresesi หนึ่งในอาคารอนุรักษ์ประจำเมืองมาร์ดิน ปัจจุบันเป็นวิทยาลัยศาสนศาสตร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1385 กลุ่มอาคารแห่งนี้ประกอบด้วยมัสยิดและหลุมศพของผู้ที่มีความสำคัญทางศาสนา ซึ่งมีการออกแบบสถาปัตยกรรมแบบอิสลามได้อย่างลงตัวออกมามีความงดงามอย่างยิ่ง

นำท่านถ่ายรูปกับ สุเหร่าอูลูแห่งเมืองมาร์ดิน (Mardin Grand Mosque / Ulu Mosque) ตัวอย่างสถาปัตยกรรมในยุคอาร์ทูคิดช่วงศตวรรษที่ 12 (ยุคที่ปกครองโดยราชวงศ์เติร์กเมนิสถาน) ตัวอาคารสร้างขึ้นด้วยหินเจียระและโดมถูกสร้างด้วยการเป่าและเซาะร่อง แต่ได้รับความเสียหายอย่างหนักครั้งสงครามที่เกิดขึ้นจากชาวเคิร์ดช่วงปี ค.ศ.1832 ปัจจุบันได้รับการบูรณธบางส่วนให้คงสภาพดีเหมือนเดิม

นำท่านถ่ายรูปเบื้องล่างกับ ปราสาทมาร์ดิน (Mardin Castle) ตั้งอยู่เหนือตัวเมืองมาร์ดินบนหน้าผาหินอันสูงชัน สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ยุคสมัยโรมัน อายุราว 3000 ปี จากนั้นมีการต่อเติมช่วงศตวรรษที่ 15 เพื่อรองรับการลี้ภัยของชาวเมืองในยุคสงคราม
​กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
​บ่ายนำท่านชม อารามดูรูซาฟาราน (Deyrulzafaran Monastery) หรืออารามแซฟฟรอน (Saffron Monastery) อารามซีเรียนออร์โธดอกซ์ของชาวคริสต์ ตั้งอยู่นอกเมืองมาร์ดินระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร โดยท่านสังฆราชแห่งคริสตจักรออร์โธดอกซ์ได้ย้ายถิ่นพำนักมาประจำอยู่ที่แห่งนี้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1160 หลังจากถูกขับไล่ออกจากเมืองอันตาคยา ทั้งนี้การพักอาศัยของพระสังฆราชได้สิ้นสุดลงเมื่อปี ค.ศ.1932 และย้ายไปเมืองโฮมและเมืองดามัสกัสในประเทศซีเรียในที่สุด กลุ่มอาคารแห่งนี้ถูกบ่งชี้ด้วยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วง 493 ปีก่อนคริสตกาล และได้รับความเสียหายจากสงคราม ซึ่งภายหลังได้รับการบูรณะภายนอกขึ้นใหม่ช่วงปี ค.ศ.2007

นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮาซานเคียฟ (Hasankayf) (ระยะทาง 112 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.)  หมู่บ้านโบราณเล็กๆที่มีความสวยงาม ตัวเมืองถูกแบ่งเป็นสองส่วนโดยแม่น้ำไทกริส ซึ่งถูกประกาศเป็นเขตอนุรักษ์ทางธรรมชาติโดยรัฐบาลตุรกีตั้งแต่ปี ค.ศ.1981 ปัจจุบันผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นชาวเคิร์ด ก่อตั้งรกรากครั้งแรกยุคสมัยโรมัน และถูกช่วงชิงการปกครองมาหลายยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็น ไบเซนไทน์ อาร์ทูคิด อัยยูบิดส์ และมองโกล อย่างไรก็ตาม เมืองที่คงเสน่ห์แห่งนี้ยังประสบสภาวะเสี่ยงจมใต้บาดาลจากแผนการก่อสร้างเขื่อนในอนาคต

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองวาน (Van) (ระยะทาง 334 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม.)  
​ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก 
ที่พัก BUYUK URARTU / OR TAMARA HOTEL / OR DOUBLETREE HILTON หรือเทียบเท่า
วันที่ 8วาน - ล่องเรือสู่เกาะอัคดาม่า -  โบสถ์แห่งไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ - ป้อมปราการแห่งเมืองวาน - เมืองอิสตันบูล
​เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่าน ล่องเรือสู่เกาะอัคดาม่า (Akdamar Island) ห่างจากฝั่งประมาณ 3 กิโลเมตร มีพื้นที่บนเกาะราว 0.7 ตารางกิโลเมตร เกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 จากจำนวนเกาะทั้งหมด 4 เกาะแห่งทะเลสาบวาน ทะเลสาบบนที่ราบสูบระดับ 1,640 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และยังเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศตุรกีด้วย

นำท่านชม โบสถ์แห่งไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ (Cathedral of the Holy Cross) โบสถ์โบราณสไตล์อาร์เมเนียนอะพอสโตลิค สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.915 สร้างขึ้นเพื่อเป็นคริสตจักรแห่งราชสำนักเพื่อกษัตริย์ Vaspurakan และต่อมารับใช้เป็นที่นั่งของ Catholicosate แห่ง Aghtamar ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ 
​กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
​บ่าย นำท่านชม ป้อมปราการแห่งเมืองวาน (Van Citadel / Fortress of Van) ป้อมปราการที่สร้างขึ้นจากหินโดยชนม์เผ่าโบราณ Urartu ซึ่งคาดการณ์ว่าอาศัยอยู่ในย่านนี้ช่วง 860-590 ปีก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่บนหน้าผาที่สูงชัน ส่วนล่างของผนังสร้างขึ้นจากหินบะซอลต์ และส่วนอื่นๆสร้างขึ้นจากอิฐโคลน หลักฐานทางประวัติศาสตร์มีการบันทึกว่าป้อมปราการแห่งนี้ไม่ได้ถูกใช้ทางการทหาร แต่หากถูกใช้เพื่อการอาศัยและการปกครองเมืองที่อยู่ภายเบื้องล่างเสียมากกว่า
​16.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินวาน (Van) เพื่อเตรียมตัวขึ้นเที่ยวบินในประเทศสู่ อิสตันบูล
​18.40 น.ออกเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล โดยเที่ยวบิน TK 2751 (***สายการบินบริการอาหารว่างระหว่างเที่ยวบิน)
​21.05 น. เดินทางถึงสนามบินเมืองอิสตันบูล
​ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
ที่พัก RAMADA TEKSTILKENT / OR RAMADA ALIBEYKOY หรือเทียบเท่า 
วันที่ 9อิสตันบูล - เขตคาร์ดิกอย - ห้างสรรพสินค้าอิสตินพาร์ค
​เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านข้ามฟากสู่ฝั่ง เอเชียของเมืองอิสตันบูล ใน เขตคาร์ดิกอย (Kardikoy) หนึ่งในอาณาเขตชุมชนที่ประชากรหนาแน่นและมีสีสันที่สุดเขตหนึ่งในมหานครอิสตันบูล คาร์ดิกอยตั้งอยู่บนคาบสมุทรอนาโตเลี่ยน ซึ่งเต็มไปด้วยเขตที่อยู่อาศัย และร้านค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงหนัง โรงละครโอเปร่า ร้านหนังสือ และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของในกลางการรถไฟ และท่าเรือของประเทศอีกด้วย อีกทั้ง มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในกรุงอิสตันบูล นามว่า มหาวิทยาลัยมาห์มาร่า ก็ยังตั้งอยู่ในอาณาเขตคาร์ดิกอย

นำท่านชมบริเวณตัวเมือง สัมผัสกลิ่นอายของการใช้ชีวิตแบบชาวตุรกี และอิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย

ได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ ฝั่งยุโรป ได้เวลานำท่านช้อปปิ้ง ณ ศูนย์ผลิตเสื้อหนังคุณภาพสูง และร้านขนม Turkish Delight  อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
​กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน 
​บ่าย นำท่านเดินทางสู่ ห้างสรรพสินค้าอิสตินพาร์ค (Istinye Park) ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งนครอิสตันบูลที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ทั้งสินค้าแบรนด์เนมยุโรปและแบรนด์ท้องถิ่น อาทิเช่น ARMANI, C&A, CHANEL, DIOR, GAP, GUCCI, H&M, HERMES, LONGCHAMP, LOUIS VUITTON, MARK & SPENCER, MANGO, PRADA, ZARA และแบรนด์อื่นๆมากมาย อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งอย่างจุใจ
​17.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเมืองอิสตันบูล 

***อิสระให้ท่านรับประทานอาหารค่ำภายในสนามบินอิสตันบูล***
วันที่ 10กรุงเทพฯ
​01.25 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TK 68 (ใช้เวลาบินประมาณ 9.30 ชั่วโมง)  สายการบินฯ มีบริการอาหารค่ำและอาหารเช้าระหว่างเที่ยวบิน
15.00 น.เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)



ดาวน์โหลดใบจอง
   
            ดาวน์โหลดใบจอง (Word)       ดาวน์โหลดใบจอง (PDF)

เงื่อนไขในการจอง

อัตราค่าบริการนี้รวม
  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน TK (กระเป๋าเดินทาง น.น. ไม่เกิน 20 ก.ก./ท่าน)
  • ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท
  • ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท   (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่, ค่าภาษีในประเทศตุรกี
  • เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
  • ค่าทิปพนักงานขับรถ ท่านละ 2 USD / ท่าน / วัน (คิดเป็น 8 วัน เท่ากับ 16 USD)
  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น ท่านละ 3 USD / ท่าน / วัน (คิดเป็น 8 วัน เท่ากับ 24 USD)
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ ท่านละ 3 USD / ท่าน / วัน (คิดเป็น 10 วัน เท่ากับ 30 USD)
  • รวมทิปสามรายการข้างต้น = USD70 หรือเท่ากับประมาณ 2,300 บาท (โดยค่าทิปจะขอเรียกเก็บพร้อม invoice ยอดเต็ม)
  • ค่าทิปพนักงานยกกระเป๋าในแต่ละโรงแรม
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด, โทรศัพท์-แฟกซ์, เครื่องดื่มมินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
เงื่อนไขการจองทัวร์ 
  • งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 20,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปเดินทางแน่นอน
  • งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
กรณียกเลิก
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45 วัน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (เฉพาะกรณีไม่ได้มีค่าใช้จ่ายใดๆเกิดขึ้น)  (เมษายน-ธันวาคม ปีใหม่ 60 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30-44 วัน หักค่ามัดจำ 20,000 บาท + ค่าวีซ่า (ถ้ามี) (เมษายน-ธันวาคม ปีใหม่ 44-59 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 10-29 วัน หักค่ามัดจำ 20,000 บาท + ค่าใช้จ่ายอื่น (ถ้ามี) (เมษายน-ธันวาคม ปีใหม่ 20-43 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 1-9 วัน หักค่าใช้จ่าย 100% ของค่าทัวร์ (เมษายน-ธันวาคม ปีใหม่ 4-19วัน)
  • ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100% 


    ***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***
​หมายเหตุ
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทาง ในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 20 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง(หากจำนวนลูกค้าในคณะไม่ถึง 20 ท่าน ราคาทัวร์ เพิ่มท่านละ 4,000 บาท)
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน  การประท้วง  ภัยธรรมชาติ  การก่อจราจล  อุบัติเหตุ  ปัญหาการจราจร ฯลฯ   ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ  ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฎิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฎิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว  หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง อันเนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง 
  • ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ  บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
​ตั๋วเครื่องบิน
  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับหากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนดซึ่งทางบริษัทฯไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทางถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้วผู้เดินทางต้องรอRefund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  • ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศเช่นเชียงใหม่ภูเก็ตหาดใหญ่ฯลฯโปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆยืนยันการเดินทางแน่นอนหากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงานแล้วทัวร์นั้นยกเลิกบริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้วหมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
​โรงแรมและห้อง
  • ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่(Twin/Double) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง(Triple Room) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรมซึ่งมักมีความแตกต่างกันซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการหรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
  • โรงแรมหลายแห่งในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
  • ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ (Trade Fair) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
​กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
  • กรุณางดนำของมีคมทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบินเช่นมีดพับกรรไกรตัดเล็บทุกขนาดตะไบเล็บเป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  • วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลวอาทิครีมโลชั่นน้ำหอมยาสีฟันเจลสเปรย์และเหล้าเป็นต้นจะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งโดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้นในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตราการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
  • หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบินจะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุวันเดินทางเที่ยวบินจึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด
​สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ
  • สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฎิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
  • ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตราฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  • กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)

ค้นหา
คำค้น
ช่วงเวลา
รายการทัวร์
ค้นหา


 

Add line Triple Enjoy