วันที่ 1 | กรุงเทพมหานคร |
19.30 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน M ประตูทางเข้าที่ 6 อาคารผู้โดยสารชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ |
22.45 น. | ออกเดินทางสู่ นครอิสตันบูล (IST) ประเทศตุรกี โดย สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ TK 69 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.30 ชม.) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินมีบริการ อาหารค่ำและอาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี |
วันที่ 2 | อิสตันบลู – ดามัสกัส – พิพิธภัณฑ์แห่งชาติดามัสกัส – พระราชวังอัลอาเซม – มัสยิดอุมัยยะฮ์ |
05.15 น. | เดินทางถึง กรุงอิสตันบูล (IST) แวะเปลี่ยนเครื่อง |
08.00 น. | ออกเดินทางสู่ สนามบินดามัสกัส (DAM) ประเทศซีเรีย โดย สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ TK846 (ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชม.) สายการบินมีบริการอาหารเช้าบนเครื่องบิน |
10.00 น. | เดินทางถึง สนามบินดามัสกัส (DAM) ประเทศ ซีเรีย นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองดามัสกัส (Damascus) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดของประเทศซีเรีย บางคนถือว่าเมืองนี้เป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ลำดับที่ 4 ในศาสนาอิสลาม ชาวซีเรียเรียกขานเมืองนี้ว่า อัชชาม และมีสมญาว่า "เมืองแห่งดอกมะลิ" ดามัสกัสเป็นศูนย์วัฒนธรรมที่สำคัญของลิแวนต์และโลกอาหรับ นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติดามัสกัส (National Museum of Damascus) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองดามัสกัส ประเทศซีเรีย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุด ก่อตั้งขึ้นในปี 1919 ในสมัยที่กษัตริย์ฟัยซาลปกครองอาณาจักรอาหรับซีเรีย และเป็นสถาบันมรดกทางวัฒนธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในซีเรีย โดยครอบคลุมประวัติศาสตร์ซีเรียทั้งหมดตลอดระยะเวลากว่า 11,000 ปี จัดแสดงโบราณวัตถุ วัตถุโบราณ และสิ่งค้นพบสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเมืองมารี เอบลา และอูการิต ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีโบราณที่สำคัญที่สุด 3 แห่งของซีเรีย นำท่านเดินทางเข้าชมพระราชวังอัลอาเซม (Al-Azem Palace) เป็นพระราชวังในเมืองดามัสกัสประเทศซีเรีย พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1749 เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยส่วนตัวของอัสอัด ปาชา อัลอัซม์ ผู้ว่าการดามัสกัส ในช่วงที่ฝรั่งเศสปกครองซีเรียและเลบานอน พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของสถาบันฝรั่งเศส ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะและประเพณีพื้นบ้าน นำท่านเดินทางชมมัสยิดอุมัยยะฮ์ (Ummayad Mosque) สร้างขึ้นโดย ศาสดาจอห์นเดอะแบบติสต์ (John the Babtist) ซึ่งเป็นศาสดาหลังยุคพระเยซู ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 1 จนกระทั่ง ค.ศ.634 เมืองดามัสกัสถูกกองทัพมุสลิมเข้าปกครอง ศาสนสถานแห่งนี้ซึ่งมุสลิมถือว่าเป็นศาสนสถานของ ยะห์เฮีย (Yahya) ของอิสลามจึงถูกเปลี่ยนเป็นมัสยิด และกลายเป็นมัสยิดประจำราชวงศ์อุมัยยะฮ์ที่ใช้กรุงดามัสกัส เป็นที่รู้จักกันในชื่อ มัสยิดใหญ่แห่งดามัสกัส ซึ่งเป็นมัสยิดหลักที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง เป็นหนึ่งในมัสยิดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตั้งแต่สหัสวรรษแรกก่อนคริสตกาล เคยเป็นโบสถ์และปัจจุบันเป็นมัสยิดที่มีเอกลักษณ์และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ชาวมุสลิมเชื่อว่ามัสยิดอุมัยยะฮ์ เป็นมัสยิดศักดิ์สิทธิ์ลําดับที่ 4 ของศาสนาอิสลาม นำท่านเดินทางชม โบสถ์เซนต์อานาเนียส (Church of St. Ananias) บ้านของนักบุญอานาเนียส เป็นโครงสร้างใต้ดินโบราณที่ตั้งอยู่ในเมืองดามัสกัส ประเทศซีเรีย เชื่อกันว่าสถานที่แห่งนี้เป็นซากบ้านของอานาเนียสแห่งดามัสกัส ซึ่งอานาเนียสได้ทำพิธีบัพติศมาให้แก่ซาอูล (ซึ่งต่อมากลายเป็นอัครสาวกเปาโล) จากการขุดค้นทางโบราณคดีพบซากโบสถ์ไบแซนไทน์จากคริสตศตวรรษที่ 5 หรือ 6 ซึ่งเป็นหลักฐานทางกายภาพที่สนับสนุนประเพณีท้องถิ่นที่ว่า โบสถ์แห่งนี้มีต้นกำเนิดในคริสต์ศตวรรษที่ 1 หรือ 2 โบสถ์แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกในปี 1979 โดยเป็นส่วนหนึ่งของเมืองโบราณแห่งดามัสกัส |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรม |
ที่พัก | Beit Zafran Hotel De Charme***** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | เรือนจำเซดนายา – มาอาลูลา – ฮอมส์ – อเลปโป |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางชมเรือนจำเซดนายา (Saydnaya Prison) (ระยะทาง 35 กม. ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) รู้จักกันในชื่อ "โรงฆ่ามนุษย์" ซึ่งเป็นเรือนจำทหารและค่ายมรณะ ทางเหนือของดามัสกัส ดำเนินการโดยกลุ่มบาอัธซีเรีย เรือนจำแห่งนี้คุมขังนักโทษทั้งชายและหญิงหลายพันคน ผู้ที่ถูกคุมขังรวมถึงผู้ต้องขังพลเรือน กบฏต่อต้านรัฐบาล และนักโทษการเมือง ประมาณการในเดือนมกราคม พ.ศ. 2564 ว่าผู้ถูกคุมขัง 30,000 คนถูกสังหารโดยระบอบการปกครองของอัสซาดในเซดนายา ที่นี่ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทรมานอันโหดร้ายที่ชาวซีเรียจำนวนมากต้องทนทุกข์ทรมาน การปฏิบัติที่โหดร้าย และการประหารชีวิตหมู่ นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองซีเรียปะทุขึ้น (การเข้าชมเรือนจำแห่งนี้ขึ้นกับการได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เท่านั้น ไม่สามารถการันตีได้ และเจ้าหน้าที่ไม่รับของกำนัล) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองมาอาลูลา (Maaloula) เป็นเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของซีเรีย เมืองนี้ตั้งอยู่ในเขตปกครองริฟดิมัชก์ ห่างจากกรุงดามัสกัสไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 56 กม. และสร้างขึ้นบนไหล่เขาที่ขรุขระที่ระดับความสูงมากกว่า 1,500 ม. เป็นเมืองที่ได้รับสมญานามว่า “ประตูสู่อารยธรรมอาราเมียนของชนเผ่าอาราไมต์” ที่นี่เป็นเมืองคริสเตียนเล็กๆ ที่เกือบจะถูกทำลายล้างโดยกลุ่ม ISIS ในปี 2014 เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยงามที่สุดในซีเรีย และเป็นสถานที่แห่งเดียวในโลกที่ใช้ภาษาอาราเมอิก ซึ่งเป็นภาษาที่ถูกใช้ในสมัยพระเยซูยังมีชีวิตอยู่ มีอายุมากกว่า 3000 ปี และมีเพียงที่มาอาลูลาแห่งเดียวเท่านั้นที่ยังคงใช้ภาษานี้กันอยู่
|
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองฮอมส์ (Homs) (ระยะทาง 120 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.) เป็นเมืองตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศซีเรีย เป็นเมืองหลวงของเขตผู้ว่าราชการฮอมส์ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 501 เมตร ตั้งอยู่ห่างจากกรุงดามัสกัสทางทิศเหนือราว 162 กิโลเมตร บนฝั่งแม่น้ำออรันตีส จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองอเลปโป (Aleppo) (ระยะทาง 185 กม. ใช้เวลาประมาณ 2.20 ชม.) หนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดที่มีคนอาศัยอยู่อย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุด มีคนอาศัยอยู่ตั้งแต่ช่วงต้นของ 6 สหัสวรรษก่อนคริสต์ศักราช เป็นเมืองที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ของภูมิภาคเพราะตั้งอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับเมโสโปเตเมีย เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความช่ำชองในการค้าและทหารจากข้อมูลจารึกอักษรหินคูนิฟอร์มในเมโสโปเตเมีย เป็นจุดสำคัญของเส้นทางสายไหมสมัยโบราณก่อนจะเข้าภูมิภาคยุโรป แต่ภายหลังการเปิดคลองสุเอซทำให้การค้าทางทะเลเข้ามามีบทบาทแทน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรมที่พัก |
ที่พัก | Sheraton Aleppo Hotel ***** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) |
วันที่ 4 | ป้อมปราการอเลปโป – ตลาดอเลปโป - โรงงานสบู่ Aleppo |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางเข้าชมป้อมปราการอเลปโป (Aleppo Citadel) เป็นพระราชวังยุคกลางขนาดใหญ่ที่มีป้อมปราการตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าของอาเลปโป ทางตอนเหนือของซีเรีย ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกตั้งแต่ปี 1986 ซึ่งมีความสมบูรณ์ด้านสถาปัตยกรรมอย่างยิ่ง Aleppo Citadel เป็นป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งตั้งอยู่กลางเมือง มีกําแพงสูงล้อมรอบเป็นวงรี สูงจากพื้นดิน 50 เมตร ล้อมรอบ ด้วยคูเมืองขนาดกว้างกว่า 20 เมตร เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางทหารในอดีต รูปแบบภายในป้อมปราการออกแบบเพื่อใช้ในการป้องกันการบุกรุกของศัตรู ชมบริเวณภายในป้อมที่ประกอบไปด้วย อาคารต่างๆ มากมาย ซึ่งรวมถึง พระราชวังเก่า ห้องท้องพระโรง โรงอาบน้ำ สุเหร่าใหญ่ ค่ายทหาร และ อาคารบ้านเรือน พร้อมชมวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองอเลปโป นําท่านเดินชมย่านตลาดอเลปโป (Aleppo Souq ) เมืองเก่าแห่งนี้มีตลาดซุกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในตะวันออกกลาง การไปเยี่ยมชมตลาดซุกที่เคยคึกคักไม่เพียงแต่เป็นไฮไลท์เท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนที่น่าเศร้าที่สุดในการมาเยือนเมืองอเลปโปอีกด้วย ตลาดซุกที่นี่เคยเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและทำกำไรได้มากที่สุดในโลกอาหรับ แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นซากปรักหักพัง ที่นี่คุณจะได้เห็นการฟื้นฟูอย่างช้าๆ หลังจากช่วงเวลาแห่งการทำลายล้าง และหลังจากได้รับการบูรณะซุก 4 แห่งในเมืองเก่า ได้รับการบูรณะด้วย ท่านจะได้สัมผัสวิถี ชีวิตของชาวท้องถิ่นซึ่งเต็มไป ด้วยร้านค้ามากมาย มีสินค้าหลากหลายชนิด และสัมผัสการดําเนินชีวิตแบบ โบราณตั้งแต่สมัย ศต. ที่ 13 ยังคงมีให้ท่านเห็น |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางชมโรงงานสบู่ Aleppo (Jebeili Soap Factory) เป็นสบู่ก้อนแข็งทำมือที่เกี่ยวข้องกับเมือง Aleppo ในซีเรีย สบู่ Aleppo จัดอยู่ในประเภทสบู่ Castile เนื่องจากเป็นสบู่แข็งที่ทำจากน้ำมันมะกอกสกัด ที่นำเข้าจากภูมิภาคตะวันตกและเหนือของ Aleppo และน้ำด่าง ซึ่งแยกแยะได้จากน้ำมันลอเรล กระบวนการทำให้เป็นสบู่ของน้ำมันเหล่านี้ขึ้นอยู่กับสารที่มีฤทธิ์เป็นด่างซึ่งสกัดมาจากการเผาต้น Anabasis ที่กระจัดกระจายอยู่ในซีเรียบาเดีย และเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องมาจากการผลิตในปริมาณมาก โรงงานสบู่บางแห่งจึงใช้ผลิตภัณฑ์เสริมที่มีฤทธิ์เป็นด่าง อุตสาหกรรมสบู่ในอาเลปโปขึ้นอยู่กับการเก็บเกี่ยวผลมะกอกและการปั่น โดยฤดูกาลทำสบู่จะเริ่มในเดือนพฤศจิกายนและดำเนินต่อไปจนถึงเดือนมีนาคมหรือเมษายน ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ Al-Jdaydeh ซึ่งเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ของเมืองอเลปโป นำท่านชมหมู่อาคารสำคัญทางประวัติศาตร์ ซึ่งได้ถูกทำลายในช่วงสงครามกลางเมือง แต่ยังคงร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองในอดีต |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรมที่พัก |
ที่พัก | Sheraton Aleppo Hotel ***** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2) |
วันที่ 5 | อิดลิบ – เมืองโบราณบารา - ฮามา – ครักเดเชอวาลีเย - ทาร์ทัส - โรงงานผลิตไวน์ - อัลมิชตายา |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เขตผู้ว่าการอิดลิบ (Idlib Governorate) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.10 ชม.) ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ มีอาณาเขตทางเหนือติดต่อกับจังหวัดฮาทัยของตุรกี ทางตะวันออกติดต่อกับเขตผู้ว่าการอเลปโป นำท่านชมเมืองโบราณบารา (Bara) และ เมืองเซอร์จิลลา (Serjilla) ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งในเขตอิดลิบ ได้รับการขนานนามว่า “Dead Cities” เมืองแห่งนี้คาดว่าสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 4 ก่อน คริสตกาล และได้รับอิทธิพลการก่อสร้างจากสมัยไบเซนไทล์อีกด้วย เมืองนี้ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกเป็นมรดกโลกในปี 2013 ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองฮามา (Hama) (ระยะทาง 86 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.10 ชม.) เป็นเมืองในประเทศซีเรีย บนฝั่งแม่น้ำออรอนตีส ตอนกลางของประเทศ เป็นเมืองสำคัญด้านการค้า ตั้งอยู่ทางเหนือของดามัสกัส 213 กิโลเมตร และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ เป็นรองเพียงดามัสกัส, อะเลปโป และฮอมส์ เมืองนี้มีชื่อเสียงในเรื่องกังหันทดน้ำมาตั้งแต่สมัยกลาง |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางชม ครักเดเชอวาลีเย (Krak Des Chevaliers) (ระยะทาง 93 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.) เป็นปราสาทที่น่าชื่นชมที่สุดในโลก" ตามคำบอกเล่าของลอว์เรนซ์แห่งอาระเบีย และเป็นปราสาทครูเสดยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เป็นปราสาทที่มีความสำคัญในการเป็นปราสาททางการทหารจากยุคกลางที่อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดในโลก คำว่า "Krak" ในชื่อมาจากภาษาซีรีแอก "karak" ที่แปลว่าป้อมปราการ ปราสาทอยู่ห่างจากเมืองฮอมส์ไปทางตะวันตกราว 65 ใกล้กับพรมแดนเลบานอน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองทาร์ทัส (Tartus) (ระยะทาง 63 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เป็นเมืองท่าสำคัญบนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของซีเรีย เป็นเมืองท่าที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศซีเรีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตปกครองทาร์ตัส ทาร์ตัสอยู่ภายใต้การปกครองของเขตผู้ว่าการลาตาเกียจนถึงทศวรรษ 1970 ก่อตั้งขึ้นเป็นอาณานิคมของชาวฟินิเชียนในอาราดุส นำท่านเดินทางเข้าชมโรงงานผลิตไวน์พร้อมชิมไวน์ของซีเรีย (Syria Wine Tasting) ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองอัลมิชตายา (Almishtaya) เป็นหมู่บ้านคริสเตียนทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตการปกครอง Homs ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของ Homs และทางเหนือของชายแดนติดกับเลบานอน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรมที่พัก |
ที่พัก | Ein Al Rihan Hotel ***** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | พัลไมรา – ดามัสกัส – พื้นที่กูตา - ขึ้นภูเขากาซิอูน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณพัลไมรา (Palmyra) (ระยะทาง 270 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.) เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของซีเรีย พัลไมราเคยเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์บนเส้นทางสายไหม และเคยเป็นอาณาจักรของตนเองในช่วงสั้นๆ ในศตวรรษที่ 3 โดยทอดยาวจากตุรกีไปจนถึงอียิปต์ แม้ว่าเมืองเก่าจะพังทลายลง แต่เมืองนี้ก็ยังคงอยู่ในสภาพที่สวยงามและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี น่าเสียดายที่เมืองนี้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มไอเอสในปี 2015 และอาคารหลายหลังถูกทำลายจนพังทลาย นำท่านชมประตูชัย (the Arch of Triumph) ซึ่งเป็นซุ้มประตูแห่งชัยชนะ สร้างขึ้นในรัชสมัยของจักรพรรดิเซปติมิอุส เซเวอรัส ซึ่งครองราชย์ระหว่างปี ค.ศ. 193 ถึง 211 และได้รับการบูรณะในช่วงทศวรรษปี ค.ศ. 1930 นำท่านชม แนวเสาหินขนาดใหญ่ (Great Colonnade) เป็นถนนสายหลักที่มีเสาหินเรียงรายในเมืองโบราณพัลไมราในทะเลทรายซีเรีย เสาหินแห่งนี้สร้างขึ้นเป็นหลายช่วงในช่วงศตวรรษที่ 2 และ 3 และทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตร (ประมาณ 0.75 ไมล์) เสาหินเชื่อมระหว่างวิหารเบลที่ปลายด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองกับประตูตะวันตกและวิหารศพในส่วนตะวันตกเฉียงเหนือ นำท่านชมโรงละครโรมัน (Roman Theatre) เป็นโรงละครที่ยังสร้างไม่เสร็จนี้มีอายุย้อนกลับไปถึงช่วงเซเวรานในศตวรรษที่สอง ซากของโรงละครได้รับการบูรณะแล้ว โรงละครแห่งนี้ถูกยึดครองโดยกลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์ (ISIL) ในเดือนพฤษภาคม 2015 และถูกกองกำลังของรัฐบาลยึดคืนในเดือนมีนาคม 2016 ด้วยการสนับสนุนจากการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย นำท่านชมอาโกร่า (Agora) ในเมืองกรีกโบราณ เดิมที เป็นสถานที่พบปะของพลเมือง และต่อมาได้กลายเป็นพื้นที่เปิดโล่งหลักที่เป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และศาสนาที่รายล้อมไปด้วยอาคารสาธารณะบางแห่ง นำท่านชมหลุมศพ (Tomb) สุสานในเมืองพัลไมราเป็นลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นของเมือง สุสานเหล่านี้ตั้งอยู่ภายนอกกำแพงเมือง ประกอบด้วยหลุมศพ 2 ประเภทที่แตกต่างกัน หลุมศพแบบหอคอยเป็นหลุมศพที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด คอยเฝ้าเมือง ส่วนหลุมศพใต้ดินแบบหลังจะมีลักษณะซ่อนเร้นมากกว่า |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน แบบ ปิคนิค |
บ่าย | นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองดามัสกัส (Damascus) (ระยะทาง 252 กม. ใช้เวลาประมาณ 3.30 ชม.) จากนั้นนำท่านเดินทางชมพื้นที่กูตา (Ghouta Area) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการโจมตีด้วยอาวุธเคมีโดยรัฐบาลของอัสซาด พื้นที่ดังกล่าวยังคงมีร่องรอยของอดีต คล้ายกับเมืองร้างที่ถูกทิ้งร้างและถูกระเบิด แต่ยังคงมีบรรยากาศที่ผ่อนคลายและรอโอกาสที่จะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ นำท่านเดินทางขึ้นภูเขากาซิอูน (Mount Qasioun) เป็นภูเขาที่สามารถมองเห็นเมืองดามัสกัส ประเทศซีเรีย ภูเขาแห่งนี้มีร้านอาหารมากมายที่สามารถมองเห็นเมืองทั้งเมืองได้ เนื่องจากภูเขาแห่งนี้มีความสูงจากระดับน้ำทะเลมาก เครือข่ายการสื่อสารและการออกอากาศหลายแห่งจึงได้สร้างสถานีถ่ายทอดสัญญาณบนยอดเขาสำหรับการสื่อสารของเมือง เมื่อเมืองขยายตัวขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงมีการสร้างเขตบางแห่งขึ้นที่เชิงเขา จุดที่สูงที่สุดคือ 1,151 เมตร |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรมที่พัก |
ที่พัก | Beit Zafran Hotel De Charme***** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | ดามัสกัส – อิสตันบลู |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่สนามบินดามัสกัส (DAM) ประเทศซีเรีย เพื่อเตรียมเช็คอิน |
12.00 น. | ออกเดินทางสู่ สนามบินอิสตันบูล (IST) โดย สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK847 (ใช้เวลาบินประมาณ 2.40 ชม.) สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มระหว่างเที่ยวบิน |
14.05 น. | เดินทางมาถึง สนามบินอิสตันบูล (IST) เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง |
16.00 น. | ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดย สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 58 (ใช้เวลาบินประมาณ 9.15 ชม.) สายการบินฯ มีบริการอาหารค่ำและอาหารเช้าระหว่างเที่ยวบิน |
วันที่ 8 | กรุงเทพมหานคร |
05.15 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE) |