19 ต.ค. 2561 | กรุงเทพมหานคร |
18.30 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เชคอิน U (แถว U 14-18) ประตูทางเข้าที่ 9 หรือ 10 อาคารผู้โดยสาร เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ |
21.30 น. | ออกเดินทางสู่ นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 65 (ใช้เวลาบินประมาณ 9.30 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินมีบริการ อาหารค่ำและอาหารเช้า |
20 ต.ค. 2561 | อิสตันบูล - มิลาน - ปาเวีย - เจนัว |
04.00 น. | เดินทางถึง กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี แวะเปลี่ยนเที่ยวบินเป็น TK 1873 อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบินตามอัธยาศัย |
07.35 น. | ออกเดินทางจาก อิสตันบูล สู่ สนามบินมิลาน ประเทศอิตาลี (ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมง) |
09.35 น. | เดินทางถึง สนามบินมิลาน ประเทศอิตาลี ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่ เมืองปาเวีย หรือ ปาวีอา (Pavia) (ระยะทาง 89 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เป็นเมืองขนาดเล็กและมีความเงียบสงบ อยู่ทางตอนใต้-ตะวันตกของแคว้นลอมบาร์ดี ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี จากนั้นนำท่านชม มหาวิหารแห่งปาเวีย (Pavia Cathedral) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของเมืองปาเวีย โดยมหาวิหารนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1488 ใช้ระยะเวลาสร้างยาวนานกว่า 400 ปี ซึ่งถูกออกแบบโดยสถาปนิกและศิลปินมากมายหลายคน รวมถึง ลีโอนาโด้ ดาวินชี่ ศิลปินชื่อดังผู้ล่วงลับ ซึ่งเคยมาเยี่ยมเยือนเมื่อครั้งมหาวิหารแห่งนี้เริ่มต้นก่อนสร้างช่วงแรก ลักษณะโดดเด่นของ มหาวิหารแห่งนี้จะมีโดมกลางขนาดใหญ่ ที่สร้างขึ้นในรูปทรงแปดเหลี่ยม ซึ่งมีความสูง ประมาณ 97 เมตร |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนัว (Genoa) (ระยะทาง 132 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) หนึ่งในเมืองท่าสำคัญของประเทศอิตาลี นำท่านแวะถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์ของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือชื่อดังก้องโลก และเป็นชาวยุโรป คนแรกที่ค้นพบทวีปอเมริกา ซึ่งถือกำเนิด ณ เมืองเจนัวแห่งนี้ |
15.00 น. | นำท่านเชคอินขึ้นเรือสำราญ MSC Meraviglia |
18.00 น. | เรือสำราญเดินทางออกจากท่าเทียบเรือเจนัว มุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือชิวิคตาเวคเคีย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ หลังอาหารอิสระ ให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ |
21 ต.ค. 2561 | ซิวิคตาเวคเคีย - โรม |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ |
07.00 น. | เรือเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือ ชิวิคตาเวคเคีย ประเทศอิตาลี |
08.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ กรุงโรม (Rome) เมืองหลวงอันยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิโรมันซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์โดเรียพามพิลิช (Palazzo Doria Pamphilj Gallery) ส่วนหนึ่งของพระราชวังพามพิลิช (Palazzo Pamphilj) หนึ่งในพระราชวังแห่งกรุงโรม ซึ่งตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสปิอาซซ่าโนวาน่า (Piazza Novana) พระราชวังนี้ถูกสร้างขึ้นช่วง ค.ศ.1644-1650 จากนั้นถูกใช้เป็นที่พำนักของท่านทูตแห่งประเทศบราซิลเมื่อช่วง ค.ศ.1920 จนกระทั่งปัจจุบัน นำท่านชม งานจัดแสดงศิลปะภายในพิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นที่หาดูได้ยาก ต่อด้วย The Apartment สถานที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พำนักของเจ้าชาย โดเรีย พามพิลิช ในช่วงกลางศตวรรษที่ 17 ซึ่งภายในตกแต่งไว้อย่างเรียบหรูตามสไตล์อิตาเลี่ยน อิสระให้ท่านชมภายในพิพิธภัณฑ์ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านชม น้ำพุเทรวี่ (The Trevi Fountain) น้ำพุที่เหล่านักท่องเที่ยวนิยมมาโยนเหรียญอธิษฐานเพื่อให้ได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีกครั้ง จากนั้นนำท่านสู่ ย่าน บันไดสเปน (Spanish Step) แหล่งนัดพบของชาวโรมและนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นจัตุรัสที่มีอาคารสวยงามและจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ Louis Vuitton, Prada, Dior, Chanel และอื่นๆอีกมากมาย หรือจะเลือกเก็บภาพบรรยากาศใจกลางเมืองบริเวณ บันไดสเปน ให้ท่านสัมผัสบรรยากาศเมืองหลวงของอิตาลี อิสระให้ท่านช้อปปิ้งแบบเต็มอิ่ม |
14.30 น. | นำท่านเดินทางสู่ ท่าเทียบเรือชิวิคตาเวคเคีย |
17.00 น. | เรือสำราญเดินทางออกจากท่าเทียบเรือชิวิคตาเวคเคีย มุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือ ปาร์แลโม่ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ |
22 ต.ค. 2561 | ปาร์แลโม่ (เกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ |
09.00 น. | เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองปาร์แลโม่ (เกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี) เมืองหลวงของแคว้นปกครองตนเองซิซิลี ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ปลายรองเท้าบู๊ตของอิตาลี มีประวัติต่อเนื่องยาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญแห่งหนึ่งของยุโรปจึงตกเป็นเป้าหมายของการยึดครองจากชนชาติที่มีอำนาจเข้มแข็งในช่วงเวลาต่างๆเริ่มตั้งแต่กรีก โรมัน คาร์เทธ อาหรับ นอร์มัง เยอรมัน ฝรั่งเศส และสเปน แต่ละชาติผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาปกครองดินแดนนี้ขณะเดียวกันก็ได้นำเอาศิลปวัฒนธรรมของตนเข้ามาด้วย เกาะนี้จึงมีสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่หลากหลายผสมผสานกันหากแต่ลงตัว นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยความงามทางธรรมชาติ ของทั้งชายหาด ทะเล และภูเขาไฟ ด้วยความที่อยู่ห่างไกลออกมาจะสามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นอิตาเลียนดั้งเดิม อย่างที่หาไม่พบอีกแล้วตามเมืองใหญ่ในอิตาลีภาคพื้นทวีป นำท่านเข้าชม มหาวิหารมอนเรอาเล (Monreale Duomo) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมไบเซนไทน์แห่งหนึ่งของโลก สร้างขึ้นโดยกษัตริย์วิลเลี่ยมที่ 2 ผู้ปกครองดินแดนซิซิลี ในช่วงปี ค.ศ. 1060 ภายในวิหารท่านจะได้พบกับความอลังการของโมเสกทอง ซึ่งว่ากันว่าใช้ทองในการประดับประดาทั้งหมด 2,200 กก.เลยทีเดียว นับเป็นโบสถ์โมเสกที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากโบสถ์เซนต์โซเฟียที่ตุรกี และที่น่าอัศจรรย์คือ โมเสกที่เห็นทั้งหมดนี้ใช้เวลาสร้างแค่ 8 ปีเท่านั้น จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ Palazzo dei Normanni อดีตราชวังของกษัตริย์นอร์แมน ปัจจุบันใช้เป็นสภาท้องถิ่นประจำเมือง นำท่านแวะถ่ายรูป Cappella Palatina โบสถ์ส่วนพระองค์ของกษัตริย์โรเจอร์ที่ 2 พระราชาซึ่งเคยได้ชื่อว่ามีฐานะล่ำซำที่สุดในยุโรป โดยโบสถ์นี้ยังถือเป็นต้นแบบของวิหาร Monreale ที่สร้างขึ้นในอีก 40 ปีให้หลังด้วย หลังคาโดมประดับด้วยโมเสกทองรูปพระเยซูและเทวดาทั้งแปด นำท่านชม น้ำพุ Fontana della Vergogna น้ำพุแกะสลักสไตล์ไฮเรเนอซองส์ซึ่งสั่งทำจากเมืองฟลอเรนซ์ หลังจากนั้นแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ La Matorana โบสถ์สไตล์ไบเซนไทน์ประดับประดาด้วยโมเสกทอง แต่บริเวณทางเข้าเป็นสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค และแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ San Cataldo โบสถ์ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยปี ค.ศ. 1160 แต่การก่อสร้างก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อผู้ลงทุนทรัพย์ เสียชีวิตลง จึงมีสภาพเปลือยเปล่าดูคลาสสิกตามสไตล์โบสถ์ท้องถิ่น |
13.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ ท่าเทียบเรือปาร์แลโม่ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ |
15.00 น. | เรือเดินทางออกจากท่าเรือปาร์แลโม่ เพื่อมุ่งหน้าสู่ ท่าเรือกาลยารี (ซาร์ดิเนีย) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ |
23 ต.ค. 2561 | กาลยารี (หมู่เกาะซาร์ดิเนีย) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ |
09.00 น. | เรือจอดเทียบท่าที่ ท่าเทียบเรือกาลยารี Cagliari (หมู่เกาะซาร์ดิเนีย) |
10.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ เมืองบารูมินิ (Barumini) ซึ่งเป็นที่ตั้งของแหล่งอารยธรรมเก่าแก่กว่า 3,800 ปีของชาวนูรากี ซึ่งเป็นชนเผ่าที่มีมาตั้งแต่ก่อนยุคประวัติศาสตร์ ชนเผ่านี้มีสร้างที่อยู่อาศัยจากหิน จึงทำให้ซาร์ดีเนียนมีหอหินอยู่กระจัดกระจายทั่วเกาะ นำท่านเข้าชม ป้อมปราการ ซู นูรากี (Fortress of Su Nuraxi) ซึ่งได้รับการคุ้มครองจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นสถานที่อันทรงคุณค่าแห่งเกาะซาร์ดิเนีย นำท่านเที่ยวชมความมหัศจรรย์ในการดำรงชีพของชาวนูรากียุคก่อนประวัติศาสตร์ ได้เวลาอันสมควร นำท่านกลับสู่ เมืองกาลยารี |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเที่ยวชม ความงามของเกาะซาร์ดิเนีย (Sardinia) เกาะใหญ่เป็นอันดับสองในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รองจากเกาะซิซิลี เป็นหนึ่งในรัฐอิสระที่ปกครองตนเองของอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะคอร์ซิกา ซึ่งเป็นเกาะอาณานิคมของฝรั่งเศส เกาะซาร์ดิเนียเรียกได้ว่าเป็นอีกเกาะสวรรค์ ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีเมืองหลวงคือ กาลยารี (Cagliari) นำท่านเที่ยวชม เมืองหลวงกาลยารี ที่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน” นำท่านเข้าชมมหาวิหารซานตามาเรีย (Cathedral of Santa Maria) ซึ่งเป็นมหาวิหารใหญ่ประจำเมืองกาลยารี จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ Bastione di Saint Remy และ ถ่ายรูปกับ Torre dell Elefante อิสระให้ท่านได้เก็บภาพและเดินเล่นในเมืองกาลยารี |
17.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ ท่าเทียบเรือกาลยารี |
18.00 น. | เรือออกเดินทางจากท่าเทียบเรือ กาลยารี มุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือชิวิคตาเวคเคีย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ |
24 ต.ค. 2561 | ปัลมา เดอ มายอร์ก้า |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ อิสระให้ท่านพักผ่อน บนเรือสำราญหรูตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารหรือนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ หรือทำกิจกรรมที่มีภายในเรือสำราญมากมายได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งที่ร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ (Duty Free) และส่วนสันทนาการอื่นๆอีกมากมาย กิจกรรมความบันเทิงอันหลากหลายที่ท่านสามารถเลือกใช้บริการบนเรือสำราญ เช่นPublic Room : บาร์และเลาจน์ ห้องสมุด ห้องอินเตอร์เนต Entertainment : ชมโชว์พิเศษที่ทางเรือมีจัดแสดงหรือจะเลือกนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ บาร์ต่างๆ หลากหลาย สไตล์ คาสิโน ดิสโก้เธค ห้องเล่นเกม Sport and Activities : สระว่ายน้ำ สปอร์ทคอร์ท ฟิตเนต มินิกอล์ฟ Spa and Wellness : ห้องสปา ห้องสตรีม บิวตี้ ซาลอน โยคะ และอื่นๆ อีกมากมายเรือ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ อิสระให้ท่านพักผ่อน บนเรือสำราญหรูตามอัธยาศัย |
15.00 น. | เรือจอดเทียบท่าที่ ท่าเรือปัลมา เดอ มายอร์กา (Palma de Mallorca) หมู่เกาะมายอร์กา (Mallorca) หมู่เกาะแสนสวยในประเทศสเปน ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเกาะใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะแบลีแอริก เมืองหลวงของเกาะคือเมืองปัลมา เมืองซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวในวันหยุดที่ได้รับความนิยมมาก นำท่านเดินทางสู่ มหาวิหารเลอซู (La Seu, Cathedral of Palma) โบสถ์สไตล์โกธิคโรมันคาทอร์ลิค คู่บ้านคู่เมืองของเกาะมายอร์กา สร้างขึ้นตามบัญชาของกษัตริย์เจมส์ที่ 1 แห่งอารากอนในปี ค.ศ. 1229 และเสร็จสิ้นใน ปี ค.ศ.1601 โดยใช้เวลาร่วม 370 ปีในการก่อสร้าง และได้มีการปรับปรุงตามแบบฉบับของอันโตนิโอ เกาดี้ สถาปนิกและผู้ออกแบบผู้มีชื่อเสียงแห่งเมืองบาร์เซโลน่าในช่วงระหว่างปี ค.ศ.1901-1914 นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งปัลมา ชมความงามของสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคโรมันที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ตกแต่งด้วยกระจกลายสีที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย |
18.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ ท่าเทียบเรือปัลมา เดอ มายอร์กา |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ ***สำหรับท่านที่ประสงค์จะลงจากเรือเพื่อเดินเล่นที่ปัลม่า*** อิสระให้ท่านเดินเที่ยวชมเมืองในยามราตรี บริเวณใกล้ท่าเรือจะมีถนนเลียบหาด ย่าน Paseo Maritimo ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสียามค่ำคืน บริเวณรอบๆท่านจะพบกับร้านอาหาร ร้านกาแฟ และสถานบันเทิงยามค่ำคืน |
23.00 น. | เรือออกเดินทางจากท่าเทียบเรือปัลมา เดอ มายอร์ก้า เพื่อมุ่งหน้าสู่ กรุงบาเลนเซีย ประเทศสเปน |
25 ต.ค. 2561 | บาเลนเซีย |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ |
09.30 น. | เรือจอดเทียบท่าที่เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน |
10.30 น. | นำท่านเที่ยวชม เมืองบาเลนเซีย หรือ เมืองวาเลนเซีย (Valencia) เป็นเมืองหลวงของแคว้นบาเลนเซียและจังหวัดบาเลนเซีย เป็นแคว้นปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ทางตอนกลาง ตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศสเปน เมืองบาเลนเซีย ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำตูเรีย (Turia River) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศสเปน และยังเป็นที่ตั้งของสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงคือ สโมสรฟุตบอลบาเลนเซีย (Valencia Club de Futbol) รู้จักกันในชื่อ บาเลนเซีย หรือ ไอ้ค้างคาว เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของประเทศสเปนที่มีชื่อเสียง ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 เมืองบาเลนเซียได้กลายเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของสเปน อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่ง ในอดีตเมืองบาเลนเซียเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในสเปน ที่ถูกก่อตั้งขึ้นในสมัยโรมันภายใต้ชื่อ "Valentia Edetanorum" นำท่านเข้าชม หอคอยตอร์เรส เด เซอรานอซ (Torres de Serranos) เป็นป้อมปราการเมืองยุคกลางที่ตั้งอยู่ประมาณทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเขตเมืองเก่า หนึ่งในสิบสองประตูของกำแพงเมืองโบราณเมืองบาเลนเซีย ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงสองประตูเท่านั้น เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้ดีที่สุด และยังเป็นเส้นแบ่งระหว่างเขตเมืองเก่าและเมืองใหม่ จากนั้นนำท่านเข้าชม มหาวิหารซานต้ามาเรีย (Santa Maria Cathedral) มหาวิหารที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางจัตุรัสมาเรียในเมืองเก่าที่ถูกรายล้อมไปด้วยเหล่าอาคารสำคัญๆมากมาย สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1238 เป็นสไตล์ผสมผสานระหว่างโรมาเนสก์, เรอเนอซองส์, นีโอคลาสสิก, และบาโรค เข้าด้วยกัน ด้านในตัววิหารจะมีรูปวาดบอกเล่าเรื่องราวของพระเยซู ซึ่งวาดขึ้นโดยศิลปินชื่อดังจากกรุงวาติกัน ฟรานเชสโก้ โกย่า ส่วนด้านข้างวิหารจะเป็น เอล มิกูเลต (El Miguelete) หอระฆังที่ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1381 ติดกันเป็นโบสถ์แม่พระ นักบุญอุปถัมภ์ประจำเมือง ตลอดสองข้างทางมี ภัตตาคาร, บาร์, ร้านกาแฟ และร้านขายของที่ระลึกมากมาย กลางจัตุรัสจะมีน้ำพุผู้หญิง 8 คน และรูปปั้นผู้ชายอยู่ตรงกลาง ซึ่งหมายถึงคลองทั้ง 8 และแม่น้ำ 1 สายซึ่งอยู่รายล้อมเมืองนี้นั่นเอง อิสระให้ท่านเดินเล่นและเก็บภาพความสวยงามของเมืองเก่าตามอัธยาศัย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (เมนูข้าวผัดสเปน) |
บ่าย | นำท่านแวะถ่ายรูปกับสนามกีฬาของสโมสรชื่อดังแห่งเมืองบาเลนเซีย สโมสรฟุตบอลบาเลนเซีย (Valencia Club de Futbol) หรือจะเลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึกจากสโมสรฟุตบอลตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านสู่ ย่านถนนช้อปปิ้ง (walking street) อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าได้ตามอัธยาศัย |
15.00 น. | นำท่านกลับสู่ ท่าเทียบเรือบาเลนเซีย |
16.00 น. | เรือเดินทางออกจากท่าเรือบาเลนเซีย เพื่อมุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ |
26 ต.ค. 2561 | มาร์กเซย์ - ซาลง เดอ โพรวองซ์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ อิสระให้ท่านพักผ่อน บนเรือสำราญหรูตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารหรือนั่งเล่นใน คลับ เลาจน์ หรือทำกิจกรรมที่มีภายในเรือสำราญมากมายได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งที่ร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ (Duty Free) และส่วนสันทนาการอื่นๆอีกมากมาย กิจกรรมความบันเทิงอันหลากหลายที่ท่านสามารถเลือกใช้บริการบนเรือสำราญ เช่น
Public Room : บาร์และเลาจน์ ห้องสมุด ห้องอินเตอร์เนต Entertainment : ชมโชว์พิเศษที่ทางเรือมีจัดแสดงหรือจะเลือกนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ บาร์ต่างๆ หลากหลาย สไตล์ คาสิโน ดิสโก้เธค ห้องเล่นเกม Sport and Activities : สระว่ายน้ำ สปอร์ทคอร์ท ฟิตเนต มินิกอล์ฟ Spa and Wellness : ห้องสปา ห้องสตรีม บิวตี้ ซาลอน โยคะ และอื่นๆ อีกมากมายเรือ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ |
12.00 น. | เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ (โพรวองซ์) ประเทศฝรั่งเศส นำท่านเดินทางสู่ ซาลง เดอ โพรวองซ์ (Salon de provence) (ระยะทาง 51 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองเก่าแก่อีกเมืองหนึ่งของโพรงวองซ์ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมืองมาร์กเซย์ และเมืองเอ็กซ์อองโพรวองซ์ นำท่านเดินชม เมืองเก่า ซึ่งยังคงกลิ่นอายของอารายธรรมยุคศตวรรษที่ 17 ได้เป็นอย่างดี เริ่มจากจัตุรัส Crousillat (Place Crousillat) ต่อไปยังศาลาว่าการประจำเมือง (City Hall) และผ่านชมบ้านของนอสตราดามุส (ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์) หรือ มีแชล เดอ นอสทร์ดาม (Michel de Nostredam) นักโหราศาสตร์ชื่อดังของโลก ผู้ซึ่งใช้ชีวิตในบั้นปลาย ณ เมืองนี้กว่า 19 ปีก่อนสิ้นชีวิตลง จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ Chateau de l'Emperi ป้อมปราการกึ่งปราสาทยุคศตวรรษที่ 9 ซึ่งอดีตเป็นที่พำนักของขุนนางประจำเมืองหรือผู้ครองเมือง ไม่ว่าจะเป็น อาร์คบิชอปแห่ง Arles รวมถึงจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองมาร์กเซย์ (ระยะทาง 51 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) นำท่านเข้าชม โบสถ์นอเทรอดาม เดอลาการ์ด (Basilique Notre-Dame de la Garde) ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นอย่างงดงามด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมีรูปพระแม่มารีเป็นองค์ประธาน เล่ากันว่าในสมัยก่อนคนแถบนี้มักมาขอพรกับพระนางเพื่อให้การเดินเรือปลอดภัยและเมื่อเดินเรือปลอดภัยกลับมาแล้วก็มักจะนำเอาเครื่องแขวนมาเป็นของแก้บน แต่เมื่อเวลาผ่านไปทางเทศบาลเมืองได้ปรับปรุงให้สถานที่แห่งนี้เป็นอนุสรณ์สถานอันศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองมาร์กเซย์ จากนั้นนำท่านชม บริเวณท่าเรือ Le Vieux Port เป็นท่าเรือเก่าแก่ของเมืองมาร์กเซย์ บริเวณท่าเรือแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในนามประตูสู่เมดิเตอร์เรเนียน สมัยโบราณก็ยังเคยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญในการค้าขายระหว่างประเทศแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศส |
18.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ |
19.00 น. | เรือออกเดินทางจากท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ มุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือเจนัว |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ วันนี้จะมีการจัดงานเลี้ยง Gala Dinner ให้ท่านได้แต่งตัวสวยงามร่วมงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ หมายเหตุ ก่อนเรือกลับเทียบท่าในค่ำวันนี้ท่านจะได้รับป้ายผูกกระเป๋าสีต่างๆ ซึ่งเป็นตัวกำหนดลำดับการนำกระเป๋าลงจากเรือ ท่านจะต้องจัดกระเป๋าใบใหญ่วางไว้หน้าห้อง โดยแยกข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไว้ในกระเป๋าเดินทางใบเล็ก เพราะเจ้าหน้าที่ของเรือจะมาเก็บกระเป๋าใบใหญ่ของท่านไปตั้งแต่กลางดึก และบัญชีค่าใช้จ่ายต่างๆ จะถูกส่งมาให้ท่านตรวจเช็คก่อนทำการชำระในวันรุ่งขึ้น สำหรับท่านที่ต้องการชำระผ่านบัตรเครดิต ทางบริษัทเรือจะชาร์จค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ท่านได้ให้หมายเลขไว้ในวันที่ท่านเช็คอินโดยอัตโนมัติ |
27 ต.ค. 2561 | เจนัว - มิลาน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ |
09.00 น. | เรือจอดเทียบท่าที่ท่าเรือเจนัว (อิตาลี) นำท่านเดินทางสู่ หนึ่งในช้อปปิ้งเอาท์เลทขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป SERRAVALLE Shopping Outlet ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เมืองมิลาน สถานที่รวมสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมจากหลากหลายเมือง และจากดีไซเนอร์ชั้นนำระดับแถวหน้าของอิตาลี มีร้านค้าแฟชั่นและสินค้าต่างๆกว่า 180 ร้าน ทั้ง Versace, Dolce & Gabbana, Prada, Roberto Cavalli, Bulgari, Trussardi, Calvin Klein, Guess, Etro, Nike, Mariella Burani, Swarovski และอื่นๆอีกมากมาย โดยสินค้าแฟชั่นจะลดราคาตั้งแต่ 30% - 70% ตลอดปี อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่าน ถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือที่เรียกว่า ดูโอโม่ (Duomo) เป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอับดับสอง รองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในกรุงวาติกัน (เป็นมหาวิหารแบบโกธิคและใหญ่เป็นอันดับสามของยุโรป) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1386 แล้วเสร็จในปี ค.ศ.1813 ด้านนอกเป็นยอดแหลม 135 ยอด จึงมีชื่อเรียกว่า "มหาวิหารเม่น" มีรูปสลักหินอ่อนจากยุคต่างๆ ประดับอยู่กว่าสามพันรูป บนยอดของมหาวิหารมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตร ของพระแม่มาดอนน่า |
16.30 น. | นำท่านเดินทางสู่ สนามบินมิลาน (MXP) เพื่อเชคอินและทำ Tax Refund |
19.55 น. | ออกเดินทางจากสนามบินมิลาน สู่ สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK1876 (ใช้เวลาบินประมาณ 2.50 ชั่วโมง) สายการบินมีบริการอาหาร เครื่องดื่ม และพักผ่อน บนเครื่องบิน |
23.45 น. | เดินทางมาถึง สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี แวะเปลี่ยนเครื่อง |
28 ต.ค. 2561 | กรุงเทพมหานคร |
01.25 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย เที่ยวบินที่ TK 68 สายการบินฯ มีบริการอาหาร 2 รอบ คือ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า |
14.50 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE) |